มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส เพิ่มความสบาย เอาใจสายลุย

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย วุฒิณี ทับทอง

ถือเป็นการตัดสินใจไม่ผิด เป็นอีกรุ่นที่ขายดี สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ด้วยยอดขายสูงกว่า 16,196 คัน ในปีที่ผ่านมา

รถเอ็มพีวีที่มิตซูบิชิ นำเข้ามาจากฐานการผลิตที่อินโดนีเซีย เพื่อทำตลาดบ้านเรา พร้อมวางตำแหน่งให้รถคันนี้อยู่ในประเภท “ครอสโอเวอร์”

เพราะมองเห็นช่องว่างและโอกาสว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งาน และให้ความสนใจรถประเภทนี้จำนวนไม่น้อย

ล่าสุด “มิตซูบิชิ” ตัดสินใจต่อยอดโปรดักต์ ด้วยการส่งเอ็กซ์แพนเดอร์รุ่นย่อย อย่าง “ครอส” ออกสู่ตลาด พร้อมทำราคาพิเศษในช่วงแนะนำ ขายที่ 8.99 แสนบาท ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้

สำหรับเอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส คันนี้ ได้รับการพัฒนาตัวถังให้ยกสูงขึ้น จากรุ่นพื้นฐานถึง 20 มม. มีความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องรถ 225 มม. เพื่อให้มีความเป็นรถเอสยูวีเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งปรับช่วงล่างใหม่ เสริมความเท่ ด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้ว รับกับซุ้มล้อสีดำ

ส่วนรูปร่างหน้าตานั้น มิตซูบิชิเติมความดุดัน ด้วยกระจังหน้าเวอร์ชั่นใหม่ Dynamic Shield ไฟหน้า LED ออกแบบใหม่ ใหญ่ขึ้น พร้อมไฟตัดหมอก ด้านหน้าของรถกว้างขึ้น 50 มม. ตกแต่งแผงด้านข้างและซุ้มล้อด้วยสีดำ ประตูท้ายออกแบบใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุเปียโนแบล็ก

เสาอากาศครีบฉลาม เพิ่มราวหลังคาเข้ามา พร้อมด้วยกันชนหลังและแผงกันกระแทกขนาดใหญ่ขึ้น ดูรวม ๆ แล้ว มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส คันนี้ ดูลงตัว เหมาะเป็นรถขาลุย สไตล์ครอสโอเวอร์ หรือเอสยูวีมากขึ้น

เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสาร มิตซูบิชิเลือกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินและสีดำเปียโนแบล็ก แดชบอร์ด พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน

ที่ถูกใจคือระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์และสมาร์ทโฟนนั้น ทำได้ง่ายไม่ซับซ้อน ชัดเจนด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และความสบายที่มีมาให้เต็มคัน

ส่วนเบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง แถวที่ 3 นั้นสามารถเข้าไปนั่งได้จริง เรียกว่าพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือสำหรับคุณหนู ๆ หรือจะเป็นผู้โดยสารที่ตัวไม่ใหญ่มาก สามารถกระโดดขึ้นนั่งได้อย่างไม่อึดอัด และยังสามารถปรับ-พับเบาะที่นั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระในหลากหลายรูปแบบ

เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งหลังพวงมาลัย ปรับเบาะที่นั่งและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมแล้วในตำแหน่งนี้ให้ทัศนวิสัยดีเยี่ยม นั่งได้สูง มองได้ไกล เสียดายนิดเดียวว่า มิตซูบิชิยังเลือกใช้วิธีการปรับเบาะแบบโยกอยู่

ขุมกำลัง รถคันนี้ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนใด ๆ

จังหวะออกตัวนั้น ต้องใช้ระยะเวลาสักนิด รถค่อย ๆ เคลื่อนออกไปตามแรงกด เมื่อวิ่งออกมาในความเร็วที่ 50-70 กิโมเมตรต่อชั่วโมง

สำหรับการขับขี่ในเขตเมืองที่ถนนค่อนข้างโล่งเพราะพิษโควิด-19 การตอบสนองของเครื่องยนต์ยังถือว่าช้า และอืดไปหน่อย

บางจังหวะต้องใช้วิธีการเปลี่ยนเกียร์ ลงไปที่ตัว L เพื่อปลุกให้เครื่องยนต์ทำงานกระชับขึ้น หรือบางจังหวะต้องอาศัยการคิกดาวน์เพื่อเรียกความเร็ว แต่ในช่วงเส้นทางที่วิ่งออกนอกเขตเมือง ด้วยความเร็วที่สูงขึ้นไประดับ 110-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ทำงานได้ไหลลื่น และตอบสนองได้ดีขึ้น

ส่วนช่วงล่าง ยังคงรู้สึกได้ถึงความโหวง… รถมีอาการโยนเล็กน้อยเมื่อใช้ความเร็วต้องจับพวงมาลัยให้กระชับขึ้น ในช่วงที่ถนนขรุขระ หรือทางโค้ง แต่ถ้าวิ่งทางเรียบ ๆ ตรงยาว

พวงมาลัยไฟฟ้าเซตมาได้ค่อนข้างดี สั่งการได้แม่นยำ ควบคุมง่าย รถคันนี้ไปได้แบบเนี้ยบกริบ เหมือนกัน

ถึงตรงนี้ ใครที่มองหารถประเภทนี้ไว้ใช้งานในครอบครัว กับตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาด ทั้งรถเอ็มพีวี และรถครอสโอเวอร์ ที่มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ วางโพซิชั่นตัวเองเอาไว้ ให้เหลื่อม ๆ กัน

ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ไม่ควรมองผ่าน


ติดตามข่าว เปิดตัวรถใหม่ และ รีวิวรถยนต์ กับ ประชาชาติธุรกิจ