เทสต์คาร์ อมร พวงงาม
ค่ายตรีศูลผนึกมาเซราติ ประเทศไทย กดราคา “กิบลี ไฮบริด” ลงมาเหลือ 5 ล้านปลาย ๆ
เอาละซิ ราคานี้น่าจะกวาดลูกค้าจากค่ายใบพัดสีฟ้ากับค่ายดาวสามแฉกไปได้อีกไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความแตกต่าง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
จ่ายเริ่มต้น 5.99 ล้าน ได้ขับซูเปอร์คาร์…ไม่ธรรมดาเลยจริงมั้ย ?
แถมตัวนี้ ยังรักษ์โลกมากขึ้นด้วย
ทั้งขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กลง และค่าการปล่อยไอเสียที่ต่ำลง
เฉลี่ย 192-216 กรัม/กม. ด้วยการนำมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วย
“กิบลี ไมลด์ไฮบริด” ตัวนี้ใช้บอดี้เดียวกันกับตัวเครื่องยนต์ วี6 และดีเซล
มีแตกต่างกันเล็ก ๆ เช่น กระจังหน้า ซึ่งถ้าไม่สังเกตดี ๆ อาจจะไม่รู้สึก
โดยเฉพาะแท่งแนวตั้ง ซึ่งมีร่องตรงกลางช่วยเรื่องอากาศที่ไหลเข้า
และพยายามสร้างความแตกต่าง เพื่อให้รู้ว่าเป็นไฮบริด อาทิ ช่องลมข้างบังโคลนหน้าเป็นกรอบเป็นสีฟ้า
รวมถึงคาลิเปอร์เบรกที่เป็นสีฟ้า ไฟหน้ายังเป็น Adaptive Full-LED Matrix Headlights และประตูแบบ soft close ที่หลายคนชื่นชอบ
ภายในตกแต่งให้เป็นสปอร์ตมากขึ้น
ห้องโดยสารใช้หนังแท้เกรดพรีเมี่ยม ติดตั้งพวงมาลัยแบบสปอร์ต
เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าปรับได้ 12 ทิศทาง พร้อมการบันทึกตำแหน่งฝั่งผู้ขับ
รอยเย็บต่าง ๆ เอาสีฟ้าเข้ามาเสริม เดิมสติตชิ่งจะเน้นดำ-แดง พอเป็นไฮบริด ก็มีโทนสีโคบอลต์บลู มาช่วยทำให้ดูเย็นตามากขึ้น
ทัชสกรีนกลางแดชบอร์ดเป็นแบบไร้ขอบ
ไอคอนต่าง ๆ ปรับหน้าตาให้ดูทันสมัยขึ้น
เครื่องเสียง Harman Kardon ลำโพง 8 ตำแหน่ง
ล้อแม็ก Poseidon ขอบ 19 นิ้ว
เชื่อมต่อโลกดิจิทัลครบวงจร ผ่านโปรแกรม Maserati Connect
ไฮไลต์ของกิบลี ไมลด์ไฮบริด อย่างแรกคือ ราคาถูกลงเยอะมาก
2.เครื่องยนต์ขนาดเล็กลงเหลือแค่ 2.0 ลิตร และเป็นครั้งแรกของมาเซราติที่ทำเครื่องยนต์ 4 สูบ แต่ใส่เทอร์โบเข้าไป
พร้อมทั้งมีอุปกรณ์เพิ่มเติมความแรงเป็นอี-บูสเตอร์ มีแบตเตอรี่ 48 โวลต์ เอามาช่วยส่งกำลังสตาร์ตให้กับอี-บูสเตอร์ พร้อมทั้งมีเบลสตาร์ตเตอร์ เจเนอเรเตอร์ ที่ช่วยอี-บูสเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้น สามารถรีดแรงม้าได้มากถึง 330 แรงม้า
มีแรงบิดใกล้เคียงกับเครื่องยนต์วี6 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ยังทำได้ 5.7 วินาที ท็อปสปีดปรู๊ดไปถึง 255 กม./ชม.
คอนเซ็ปต์ของ “กิบลี ไฮบริด” ยังคงเน้นเป็นรถที่ขับสนุก สมรรถนะดี เทียบเท่าเครื่องยนต์วี6
แต่สิ่งที่ได้ตามมาคือการปล่อยไอเสียน้อยลง ประหยัดน้ำมัน
วิศวกรของมาเซราติ ต้องปรับปรุงเรื่องการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังอยู่พอสมควร
เนื่องจากเครื่องยนต์เล็กลง ทำให้น้ำหนักด้านหน้าน้อยตามไปด้วย
ในสเป็กระบุว่าเบากว่าเครื่องยนต์ดีเซล 80 กก.
“กิบลี ไฮบริด” แตกต่างจากรถยนต์ไฮบริดทั่วไป เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้ามีไว้เพื่อปั่นเทอร์โบอัดอากาศอย่างเดียว
มอเตอร์ไฟฟ้าไม่ได้ส่งกำลังไปที่ล้อเลยการขับเคลื่อนใช้กำลังเครื่องยนต์อย่างเดียว ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จากแซดเอฟ
ดังนั้น ไฮไลต์ของ “กิบลี ไฮบริด” จึงไปอยู่ที่ “อี-บูสเตอร์”
ที่สามารถทำให้เครื่องยนต์ 2 ลิตร 4 สูบธรรมดา เทียบเท่าเครื่องยนต์วี6
ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ อี-บูสเตอร์ ก็เหมือนกับเทอร์โบไฟฟ้า หรือถ้าจะให้คุ้นหูมากขึ้นก็คล้าย ๆ ซูเปอร์ชาร์จ
แต่มีอะไรแตกต่างกันเล็ก ๆ
เล่าให้ฟังแบบนี้ครับ เริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ใส่เกียร์ กดคันเร่ง รถก็เคลื่อนไปเรื่อย ๆ ตามปกติ
ออกจากบ้านเลี้ยวเข้าถนนใหญ่วิ่งไปสักพัก รถติดหรือมีไฟแดง เหยียบเบรกหยุดรถสักพัก เครื่องยนต์ดับ
พอเราถอนเท้าออกจากเบรก เครื่องยนต์ติด (ด้วยระบบออโตสตาร์ต-สต็อป) เที่ยวนี้ล่ะ เครื่องยนต์จะไม่สตาร์ตด้วยมอเตอร์สตาร์ต
แต่มาจาก BSG หรือเบลสตาร์ตเตอร์ เจเนอเรเตอร์ ที่มีแหล่งจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ 48 โวลต์ มาช่วยสตาร์ตเครื่องยนต์
สายพานตัวนี้จะช่วยให้เครื่องยนต์ติดได้เร็วขึ้น ดีกว่าใช้มอเตอร์สตาร์ต
พอเรากดคันเร่งไปเรื่อย ๆ อากาศซึ่งวิ่งตรงเข้าเทอร์โบก็บูสต์เหมือนเครื่องยนต์เทอร์โบทั่วไป
ก่อนทางเข้าเทอร์โบจะมีบายพาสวาล์ว อากาศไหลตรงเข้าได้ทันที
แต่เมื่อไหร่ที่คุณต้องการกำลัง กดคันเร่งลงไปแรง ๆ อี-บูสเตอร์จะเริ่มทำงานทันที
ถามว่ารอบเครื่องยนต์เท่าไหร่เริ่มทำงาน ผมว่าสักพันกว่ารอบต่อนาทีก็มาแล้ว
โดยบายพาสวาล์วซึ่งเดิมอากาศไหลเข้าจะปิด มาวิ่งเข้าอี-บูสเตอร์แทน เพื่ออัดอากาศ ส่งอากาศเข้าไปเพื่อเพิ่มบูสต์เพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์
โดยแปรผันตามการกดคันเร่ง กดลึก-แรง-เร็ว มอเตอร์ก็หมุนเร็วตามอัดอากาศเข้าไปได้มากขึ้น
เห็นเครื่องยนต์เล็ก ๆ แบบนี้ ขับสนุกทีเดียว
ยิ่งได้ช่วงล่าง แอร์ซัสเพนชั่น “สกายฮุค” หน้าเป็นดับเบิล-วิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง สามารถแยกปรับช่วงล่างได้ ไม่เอาไปรวมไว้กับโหมดการขับขี่เหมือนตัวเก่า
โช้กอัพทั้ง 4 ตัวแยกกันทำงานตามสภาพถนนและการขับขี่
ทำให้มั่นใจได้ทุกสภาพโค้ง
ขณะที่ระบบเบรกหน้า-หลัง คาลิเปอร์ เบรมโบ 4 พอต มีรูระบายความร้อนหยุดรถได้ตามที่ต้องการ กลายเป็นซูเปอร์ที่ขับสนุกและสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบไม่อึดอัด
“กิบลี ไฮบริด” มี 3 รุ่นย่อยให้เลือก Base, GranLusso และ GranSport
มาพร้อมแพ็กเกจ ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท รับประกันคุณภาพ 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง การบำรุงรักษา 3 ปี หรือ 60,000 กม. พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี