มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ เอสยูวี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด

เทสต์คาร์ : วุฒิณี ทับทอง 

ว่ากันว่าสาย “แคมปิ้ง” กำลังมา…เมื่อบรรดารถเอสยูวีคันใหม่จากค่ายมิตซูบิชิอย่าง “เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี” จอดเรียงรายกันอยู่ริมทะเลสาบ เมืองทองฯ

รถทุกคัน จอดเปิดท้าย พร้อมโชว์เคสการใช้งานจริง เพราะวันนี้ทีมงานมิตซูบิชิจำลองบรรยากาศของการแคมปิ้ง ด้วยการใช้ชุดเตากระทะไฟฟ้าเพื่อปรุงอาหารมื้อเช้า พร้อมซุป เพื่อเป็นกิมมิก แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้สามารถแปลงตัวเองให้เป็นพาวเวอร์แบงก์หรือโรงงานผลิตไฟได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายของรถเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีคันนี้ เหมือนเราเสียบปลั๊กใช้ไฟฟ้าที่บ้านปกติ กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ได้สบาย

ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพชัดเจน รถคันนี้สามารถแปลงเป็น “พาวเวอร์แบงก์ขนาดใหญ่” ให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้นั่นเอง และยังสามารถไปช่วยส่งกำลังได้เวลาต้องการเร่งแซง ที่สำคัญ เราจะใช้ไปมากแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหมด เพราะเครื่องยนต์ไมเวค 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 305 แรงม้า (แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์) พร้อมเจเนอเรเตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานจากเครื่องยนต์เข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออน หรืออาจจะเรียกว่า รถคันนี้เป็นโรงไฟฟ้าปั่นไฟและส่งเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ พร้อมนำออกมาใช้ในยามที่ต้องการ หรือแม้แต่ในช่วงเกิดภัยพิบัติ และต้องการกระแสไฟ

ได้เวลาการทดสอบในช่วงแรก ทีมงานตั้งใจให้เราทดลองขับโหมดไฟฟ้า 100% หรืออีวี เพื่อใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีเหลือจากการใช้กระแสไปในการปรุงอาหารมื้อเช้าในการเดินทางช่วงแรก ว่าจะวิ่งไปได้ไกลเท่าไร

ในสเป็กที่ทีมงามเคลมเอาไว้ว่า รถคันนี้สามารถวิ่งต่อไปได้อีก 50-55 กิโลเมตร แต่จากการทดสอบในช่วงนี้ จากเมืองทองธานี วิ่งสู่จุดหมายย่านพุทธมณฑลสาย 3 กดปุ่ม EV เพื่อขับด้วยไฟฟ้าที่ความเร็วเฉลี่ยราว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงที่หมายสบาย ๆ ต้องชมระบบไฟฟ้าของมิตซูบิชิทำได้ค่อนข้างเนียน สมกับความเป็นค่ายรถยนต์ที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาขายเป็นรายแรกของโลก กับอย่าง “ไอมีฟ”

จากนั้นเมื่อเข้าสู่การขับขี่ในช่วงที่สองหลัก ๆ การทำงานของรถคันนี้จะไปอยู่ที่โหมดพาราลเลล ไฮบริด เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน บางจังหวะที่กดคันเร่งแรง ๆ เรียกความเร็วมาใช้แบบด่วน ๆ กำลังจากเครื่องยนต์ก็จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ช่วงสภาพการจราจรที่จอแจ ความคล่องตัวของเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี และความคมของพวงมาลัย ตอบสนองได้ทันใจ ควบคุมได้ง่าย ส่วนทัศนวิสัยหายห่วงสไตล์รถเอสยูวี มองได้สูงและไกล

เรียกว่า เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีคันนี้ เป็นรถที่ขับได้ง่ายเมื่อเทียบกับขนาดตัวที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ ให้ความคล่องตัวพอสมควรกับการใช้งานในเมือง

ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ มีมาให้ครบครัน พร้อมตอบสนองทุกการใช้งาน

ที่สำคัญ มิตซูบิชิยังได้เพิ่มความสบายใจให้กับผู้ใช้งานที่ต้องจอดรถขวางไว้เป็นประจำ

แม้ว่ารถคันนี้ใช้เกียร์ไฟฟ้าแบบจอยสติ๊ก ที่หลายคนกังวลว่าไม่สามารถปลดไปที่เกียร์ว่างได้นั้นลืมไปได้เลย

สำหรับเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีคันนี้ มิตซูบิชิเซตมาให้ สามารถปลดเกียร์ไปที่ตำแหน่ง N ได้ในไม่กี่ขั้นตอน จอดที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเข็นไม่ได้ เหมือนรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดทั่วไป

ส่วนฟีลลิ่งในการขับขี่มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์นั้น

หากเปรียบให้พอเห็นภาพ คือ เอสยูวีที่เซตช่วงล่างมา ค่อนข้างนุ่มนวล ขับสบาย ๆ สไตล์หรูหรา

เฉิดฉายในเมือง หรือจะขับออกนอกเมือง จอดแคมปิ้ง ปิกนิกในวันหยุดของครอบครัว รถคันนี้ตอบโจทย์

เรียกง่าย ๆ ว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีคันนี้ น่าจะเหมาะกับลูกค้ากลุ่มครอบครัว

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่น

รุ่นเริ่มต้น จีที ราคา 1.640 ล้านบาทและรุ่นจีที พรีเมี่ยม ราคา 1.749 ล้านบาท