เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ตัวแรกจากค่ายญี่ปุ่น

เทสต์คาร์
อมร พวงงาม

ยุคสมัยนี้รถยนต์แบรนด์ไหน ถ้าไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วย ดูจะเชยเอาเรื่องเลยทีเดียว

ฝั่งยุโรปครบทุกแบรนด์แล้ว ส่วนฝั่งญี่ปุ่นยังมีอีกหลายเจ้า แต่อดใจรออีกหน่อยครับ เชื่อว่าเดี๋ยวก็คลอดตามกันออกมาแน่นอน

ยิ่งรัฐบาลเตรียมประกาศอัดฉีดแพ็กเกจรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า มีอินเทนซีฟให้ทั้งผู้ผลิตและผู้ใช้ อนาคตระเบิดเถิดเทิงชัวร์

แต่ทุกวันนี้ อีวี อีโคซิสเต็ม ยังไม่พร้อมสำหรับบ้านเรา ถามว่าแล้วรถยนต์กลุ่มไหนเหมาะสมล่ะ

จำได้ว่า “โมริคาซุ ชกกิ” บอสใหญ่ “มิตซูบิชิ” เคยบอกกับทุกคน ทั้งพนักงาน ลูกค้า นักข่าว ว่า “ปลั๊ก-อิน ไฮบริด” ดีที่สุด

ไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมด หาที่ชาร์จไม่ได้ก็ยังมีเครื่องยนต์ทำหน้าพาไปจนถึงที่หมาย

วันนี้ก็เลยจะพาไปสัมผัสมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถเอสยูวีตัวแรกของค่ายนี้ และเป็นญี่ปุ่นเจ้าแรกเจ้าเดียวที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้

ขุมพลังของเอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าควบคู่กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร

มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวีลคอนโทรล (S-AWC) ลิขสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิที่แตกต่างจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป

มอเตอร์ไฟฟ้าแบ่งเป็น 2 ชุด ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ให้พละกำลังสูงถึง 305 แรงม้า แรงบิด 531 นิวตันเมตร

มอเตอร์คู่หน้าให้กำลัง 82 แรงม้า แรงบิด 137 นิวตันเมตร และคู่หลังให้กำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตร

ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร Mivec ให้กำลัง 128 แรงม้า แรงบิด 199 นิวตันเมตร

ขนาดความจุของแบตเตอรี่ 13.8 kWh ซึ่งทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังไฟฟ้าได้ถึง 55 กิโลเมตร

และใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ความเร็วถึงกว่า 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกันเลยทีเดียว

ใครที่ไม่เคยขับมอเตอร์ไฟฟ้า อยากให้ได้ลองจริงครับ กดคันเร่งลงไปปรู๊ดปร๊าด แรงได้ตามที่ใจต้องการ

ขับในเมืองสนุกเลยครับ โดยเฉพาะช่วงชิงสัญญาณไฟที่กำลังจะเปลี่ยนจากเขียวมาเป็นแดง

โหมด EV ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวไม่น่าเชื่อทำความเร็วได้ตามที่เขียนในสเป็ก

ส่วนโหมดซีรีส์ ไฮบริด ก็สนุกโหมดนี้ ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มีเครื่องยนต์ที่ติดอยู่ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้ากลับไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่

ส่วนโหมดพาราเรล ไฮบริด ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน

ทั้ง 3 รูปแบบจะถูกสลับปรับเปลี่ยนโหมดแบบอัตโนมัติ การสลับกันทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์นุ่มนวลไร้รอยต่อ

มีระบบเบรกรีเจเนอร์เรทีฟ ที่สามารถจ่ายพลังงานคืนเพื่อการชาร์จไฟฟ้าให้แก่แบตเตอรี่

ยิ่งขับยิ่งชอบครับ อัตราเร่งดี ตั้งแต่เริ่มกดคันเร่งไปจนถึงความเร็วปลาย น้ำหนักพวงมาลัยกำลังสวย แต่ในย่านความเร็วสูง ๆ เหมือนจะเบาไปนิด

แต่การทรงตัวถือว่าเยี่ยม ช่วงล่างหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต หลังเป็นมัลติลิงก์ ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวีลคอนโทรล

เอาท์แลนเดอร์ดีไซน์เบรกได้เหมาะกับการใช้งานทำให้เบรกได้ราบเรียบ

ส่วนเกียร์เป็นไฟฟ้าแบบซิงเกิลสปีด คันเกียร์เป็นแบบจอยสติ๊ก มีแพดเดิลชิฟต์ด้านหลังพวงมาลัย

พร้อมโหมดการขับเคลื่อนให้เลือกถึง 4 โหมด normal ที่ใช้ได้ทั้งถนนเปียกและแห้ง

ควบคุมการกระจายแรงบิดไปแต่ละล้อโดยอัตโนมัติตามสภาพถนน โหมด snow ใช้สำหรับการขับขี่บนถนนลื่น

เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว โหมด lock สำหรับการขับขี่ที่ต้องการแรงฉุดลากสูง เหมาะสำหรับเส้นทางขรุขระหรือทราย ขณะที่โหมด sport ตอบสนองการขับขี่ที่รวดเร็ว ต้องการพละกำลังสูง

ห้องโดยสารภายในถือว่าเป็นรถที่ให้ความสะดวกสบาย ความกว้างขวาง และความหรูหราดีทีเดียว

ฟังก์ชั่นต่าง ๆ มีให้ครบโดยเฉพาะ adaptive cruise control กล้องรอบทิศทาง และการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านระบบปฏิบัติการไอโอเอส และแอนดรอยด์

เบาะหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้า แต่ตัวเบาะสั้นไปนิดไม่ค่อยเข้ากับสรีระเท่าไหร่

เอาท์แลนเดอร์ยังเอาใจสายแคมปิ้ง ด้วยช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถ ที่สามารถต่อใช้ได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ

ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ จะหุงข้าว ทำอาหาร เสียบโน้ตบุ๊กทำงาน ชงกาแฟ สบาย ๆ

ส่วนระบบความปลอดภัยมีมาให้ครบ อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา

เตือนขณะเปลี่ยนเลน ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ ตรวจจับรถคันหน้า พร้อมควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจนกว่ารถจะหยุด

มีหลายคนถามว่า เกียร์ไฟฟ้าแบบจอยสติ๊ก เวลาจอดรถต้องการปลดให้เป็นเกียร์ว่าง เผื่อจอดซ้อนคันเข็นได้ทำอย่างไร

ง่ายนิดเดียว กดปุ่ม P แช่ไว้จนตัว P ที่หน้าปัดกะพริบ ตบคันเกียร์ไปทางขวา 2 ครั้ง…เรียบร้อย

เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จัดเป็นรถที่น่าลงทุน มีให้เลือก 2 รุ่น รุ่นเริ่มต้น GT ราคา 1,640,000 บาท และรุ่น GT Premium ราคา 1,749,000 บาท

ถามว่าแพงไปมั้ย ลองเปรียบเทียบดูครับ 300 ม้า 1.7 ล้านบาท ตัวละแค่ 5 พันกว่าบาทเอง