ซีวิค แฮตช์แบ็ก สปอร์ต พรีเมี่ยม…ขุมพลังเทอร์โบ

คอลัมน์ เทสต์ คาร์ โดย อมร พวงงาม

 

ถ้าถามว่ารถฮอนด้ารุ่นไหนขายดีสุด

ซีวิค ยังเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

เพราะปัจจุบัน ฮอนด้า ซีวิค ทั้งซีดาน, คูเป้ และแฮตช์แบ็ก

มีวางขายมากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก

ตัวที่กำลังรีวิวเป็นแฮตช์แบ็ก เจเนอเรชั่น ที่ 10 มาดดูสปอร์ตพรีเมี่ยมสุด ๆ

ซึ่งต่อยอดมาจากตัวซีดาน ที่กำลังขายดิบขายดี

แต่ตัวนี้มีแค่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร

เทอร์โบเพียงอย่างเดียว

และไม่มีรุ่นย่อยให้เลือก

ซีวิค แฮตช์แบ็ก ตัวนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น

ทั้งการออกแบบและงานด้านวิศวกรรม

แต่ที่โดดเด่นคือ มีการประสานมือกันระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่ง

เพื่อให้ซีวิคเป็นสุดยอดของรถยนต์ในเซ็กเมนต์นี้

เรียกว่า ผ่านการทดสอบภายใต้

การใช้งานจริง ร่วมกับรถหรูของยุโรป

เพื่อเฟ้นเอามาตรฐานการขับขี่ การควบคุมรถ

เสียงและการสั่นสะเทือนที่มาจากเครื่องยนต์ หรือเสียงที่เล็ดลอดเข้ามาภายในห้องโดยสาร

ความกระด้าง และความประณีตในการออกแบบตัวรถ

และที่วิศวกรของฮอนด้าเน้นเป็นพิเศษ คือ องค์ประกอบ 3 ส่วน

สมรรถนะการขับขี่ ประหยัด และพื้นที่ใช้สอย

สำหรับการออกแบบ ยังคงยึดหลักอากาศพลศาสตร์

เพื่อความประหยัด และลดเสียงรบกวน

ตัวถังส่วนหน้าและระยะฐานล้อเหมือนซีดานเป๊ะ

แต่ลดระยะโอเวอร์แฮงด้านท้ายของตัวรถให้สั้นลง

เน้นความสปอร์ต และหรูหรา กันชนหน้าดีไซน์สไตล์สปอร์ตรูปรังผึ้ง

มาพร้อมไฟ LED ส่องสว่างในเวลากลางวัน

ไฟท้ายรูปทรงตัว C มาพร้อมสปอยเลอร์

หลังที่ช่วยให้ลมกดท้ายได้ดีขึ้น

ภายในมองผาด ๆ เนี้ยบมาก กว้างขวาง นั่งสบาย

แต่วัสดุที่เลือกใช้ ถ้าขยับขึ้นไปอีกสักเกรด

น่าจะไม่มีที่ติ

 

พวงมาลัยทรงสปอร์ต เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่น หน้าปัดให้ความสำคัญกับรอบเครื่องยนต์

โดยใช้ตัวเลขดิจิทัลบอกความเร็ว และเปลี่ยนสีตามโหมดการขับขี่

ช่วยให้ดูเหมือนนั่งอยู่ในค็อกพิตรถแข่ง อย่างไงอย่างงั้น

เรียกว่า สปอร์ตเต็มขั้นเลยทีเดียว

อุปกรณ์การใช้งานจัดวางได้อย่างลงตัว

ตำแหน่งเกียร์ และพื้นที่วางแขนด้านซ้าย

เข้ารูปถนัดมือ สอดรับกับสรีระคนไทย

เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้หลายทิศทาง

เบาะหลังพับได้ 60 : 40

กว้างขวาง เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้สบาย

ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮด

แคมชาฟต์ วีเทค เทอร์โบ

173 แรงม้า ขับสนุกมาก เพราะเทอร์โบตัวนี้บูตในรอบต่ำมาก

ทำงานสอดรับกับเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที

ตัวใหม่

ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ทดรีม

ทำให้อัตราเร่งแบบปรู๊ดปร๊าด สะใจ

แรงได้ทั้งต้น กลาง และปลาย

ต้องบอกว่าขับสนุกมากครับ

พวงมาลัยกระชับ สั้น และแม่นยำ

เลื่อนโหมดเกียร์มาตำแหน่งสปอร์ต

ต้องบอกว่า ทั้งเครื่องยนต์และเกียร์

ถ่ายทอดกำลังออกได้สมบูรณ์แบบ สนุกกว่าเดิมเป็นเท่าตัว

และยังสนุกได้เต็มที่กับแพดเดิลชิฟต์

ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การขับขี่ของตัวเอง

ครั้งแรกผมเข้าใจว่าโหมดสปอร์ต

น่าจะปรับทั้งเกียร์-พวงมาลัย-ช่วงล่าง

แต่วิศวกรของฮอนด้ายืนยันว่า ทำงานเฉพาะเกียร์เท่านั้น

ซึ่งฟีลลิ่งการตอบสนองในโหมดสปอร์ตดีเกินคาด

หันไปทางเพื่อนสื่ออีกฉบับที่นั่งมาด้วยกัน

บอกว่า เดี๋ยวขออนุญาตลองเบรกนิดนึง

ผมใช้ความเร็วที่ 110-120 กม.ต่อชั่วโมง

มองกระจกรถข้างหลังไม่มี หน้าก็ไม่มีรถสวน

พร้อมนะ

ตั้งพวงมาลัยตรง จับให้แน่น กระชับมากขึ้น

ผมยกเท้าจากคันเร่ง ออกแรงกดที่เบรกเต็มแรง จนรถหยุดนิ่ง

เป็นระยะทางที่สั้น และนิ่งมาก การถ่ายน้ำหนักทำได้อย่างสมดุล

ไม่มีเป๋ หรือปัดแม้แต่น้อย

ซีวิค แฮตช์แบ็ก ใช้ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ

หลังเป็นแบบมัลติลิงก์ มีจุดยึดบนซับเฟรมหลังที่แข็งแรงขึ้น

และครั้งแรกที่มีการนำ บูชยางแบบไฮดรอลิกมาใช้ทั้งด้านหน้าและหลัง

 

มีการบรรจุของเหลวเอาไว้ภายใน ซึ่งช่วยขจัดปัญหาเรื่องเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้างที่มาจากถนน

ส่วนเทคโนโลยีช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการขับขี่

ต้องบอกว่ามาครบ ทั้งโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ระบบควบคุมการทรงตัว

เอบีเอส อีบีดี รุ่นนี้ยังมีระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน สำหรับสาว ๆ ที่ปล่อยเท้าจากเบรกมากดคันเร่งไม่ทัน

รับรองรถไม่ไหลเด็ดขาด

ขับขี่ในเมืองมีปุ่ม Auto Brake Hold ไม่ต้องเมื่อยเท้าเหยียบเบรกค้างขณะรถติด

พร้อมเบรกมือไฟฟ้า

สนนราคาค่าตัว 1.169 ล้านบาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี

สวยทุกสีครับ