ประเทศไทยไร้อนาคต

ตุรกี
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : สมปอง แจ่มเกาะ


ช่วงนี้ผมเกาะติดข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในตุรกี-ซีเรียเป็นพิเศษ

ลุ้นทุกเช้าว่าจะมีการค้นพบผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ปรักหักพังเพิ่มขึ้นหรือไม่

นี่ก็ย่างเข้าสู่วันที่ 8-9 แล้ว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 7.8 แมกนิจูด ใกล้กับเมืองกาซีอันเท็ป ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี เมื่อเวลา 04.17 น. ของวันที่ 6 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น

อาจจะเป็นเพราะสมัยหนุ่ม ๆ ที่เข้าร่วมชายคา “ประชาชาติธุรกิจ” ใหม่ ๆ ได้มีโอกาสไปเยือนตุรกี ดินแดน 2 ทวีปมาครั้งหนึ่ง และประทับใจตุรกีในหลาย ๆ เรื่อง

จำได้ตอนนั้นเมื่อปี พ.ศ. 2538 หรือ 27-28 ปีมาแล้ว เป็นการเดินทางไปกับบริษัททัวร์ไทยที่ไปเปิดตลาดที่นั่น

แม้เวลาจะล่วงเลยมานาน แต่ถึงวันนี้ภาพของตุรกีในความทรงจำเมื่อในอดีตยังแจ่มชัด ตั้งแต่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินในเมืองอังการา ลงจากเครื่องก็เจอหิมะขาวโพลนเต็มไปหมด แต่ก็โชคดีที่รอด (หนาวตาย) มาได้ จากอาศัยการยืมเสื้อโค้ชเสื้อกันหนาวเพื่อนร่วมทริปมาบรรเทา เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวไป มีแต่เสื้อแจ็กเกตแค่ 2 ตัว ตามคำแนะนำของไกด์ แต่ก็สนุกไปอีกแบบ

ADVERTISMENT

ครั้งนั้นได้มีโอกาสไปเคารพศพมุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐและประธานาธิบดีคนแรก ที่สุสาน Anitkabir ในอังการา และตามต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลต์ ไม่ว่าจะเป็นคัปปาโดเกีย ปามุกกาเล เมืองโบราณเอฟิซุส ม้าไม้จำลองเมืองทรอย สุเหร่าสีน้ำเงิน วิหารเซนต์โซเฟีย พระราชวังท็อปกาปิ ช่องแคปบอสอรัส ฯลฯ

เป็นการเดินทางจากอังการาลงไปภาคใต้ มุ่งสู่ตะวันตก เลียบชายฝั่งทะเลอีเจียน ไปทางเหนือและวกกลับขึ้นไปอิสตันบูล

ADVERTISMENT

สมัยนั้นตุรกียังเวอร์จิ้นมาก ๆ ภูมิประเทศสวยงามแปลกตา อาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงอดีตในกรีก-โรมัน ไวน์ดีพรมดีราคาไม่แพง สาวสวยตาคม ผู้คนเป็นมิตร ไปไหนมาไหนก็จะได้รับการต้อนรับด้วยวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวตุรกี ที่จะมีชาเสิร์ฟต้อนรับแขกไม่อั้น

เป็นทริปตื่นตาตื่นใจ ประทับใจ ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย และเข้าใจว่าตอนนี้คนไทยก็นิยมไปเที่ยวตุรกีไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงต้น ๆ ปี

วกกลับมาเรื่องแผ่นดินไหว ล่าสุด อัพเดตเมื่อเช้า (14 ก.พ.) พบยอดเสียชีวิตพุ่งไปถึงกว่า 3.4 หมื่นคนแล้ว และคาดว่าตัวเลขยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ความช่วยเหลือจากนานาประเทศก็หลั่งไหลเข้าไปไม่หยุด

นี่เป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของตุรกี และกว่าจะฟื้นฟูประเทศกลับมาได้คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี

เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเป็นภัยธรรมชาติ

มองตุรกีแล้วกลับมามองประเทศไทยของเราที่ปี่กลองการเลือกตั้งกำลังดังแรงขึ้น ๆ และอีกไม่นานก็คงมีการประกาศยุบสภา

ตอนนี้นักการเมืองกำลังย้ายพรรคย้ายคอกกันฝุ่นตลบ เสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับการทุ่มเงินซื้อตัวนักการเมือง-ส.ส. มีกันเป็นว่าเล่น ว่ากันว่าเบาะ ๆ ก็ 10-20 ล้าน คนที่ชื่อเสียงดีหน่อยดังหน่อยก็ 50-60 ล้าน

ไม่ใช่แค่เงินทองอย่างเดียว คนที่ไล่ต้อนไล่ซื้อยังโปรยยาหอมจะให้ตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้ กรรมาธิการชุดโน้นชุดนี้ สารพัด

นี่คือสาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ ล้าหลัง เลือกตั้งแล้ว ได้เป็น ส.ส.แล้ว ก็คงกลับมาถอนทุนกันเป็นหลัก สมัยนี้ นักการเมืองหรือ ส.ส. น้อยคนนักที่จะมีอุดมการณ์ เพื่อประเทศชาติและประชาชน

ไม่เพียงแต่นักการเมือง หรือ ส.ส.เท่านั้น แต่วันนี้ระบบข้าราชการไทยก็ไม่น้อยหน้า สะท้อนจากข่าวทุจริต คอร์รัปชั่น โกงกิน เดี๋ยวกระทรวงโน้น กรมนี้ ที่มีให้เห็นแทบไม่เว้นวัน คนมือยาวสาวได้สาวเอา แล้วประชาชนตาดำ ๆ จะอยู่ได้อย่างไร

สำหรับประเทศไทย แค่ 2 เรื่องนี้ก็มองไม่เห็นอนาคตแล้ว

วันข้างหน้าคนไทยอาจจะทุกข์หนักกว่าพี่น้องชาวตุรกีที่ประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อยู่ในตอนนี้ก็เป็นได้

ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร…ได้แต่ภาวนาขอให้พระสยามเทวาธิราชช่วยปกป้องประเทศไทยด้วยเทอญ