
คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมปอง แจ่มเกาะ
ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้สัมภาษณ์ สมชัย ส่งวัฒนา เจ้าของห้องเสื้อ FLYNOW ผู้บุกเบิกวงการแฟชั่นยุคแรก ๆ ของเมืองไทย ในโอกาสที่ ฟลายนาว กลับมาเปิดแฟลกชิปสโตร์ ที่ เกษร วิลเลจ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนทำให้ต้อง scale down องค์กรและลดพนักงานลงจำนวนหนึ่ง
หลาย ๆ คนคงรู้จักคุณลิ้ม สมชัย และคุ้นเคยกับแบรนด์ ฟลายนาว ที่อยู่คู่วงการแฟชั่นไทยมานานถึง 4 ทศวรรษ เป็นอย่างดี
ต้องบอกว่า ตลอดเวลากว่า 1 ชั่วโมงที่ได้นั่งคุยนั่งสัมภาษณ์ นอกจากเรื่องราวของการ REBORN FLYNOW ในแง่ของธุรกิจแฟชั่นแล้ว ที่สำคัญยังได้ข้อคิด ได้แรงบันดาลใจ กลับมาเป็นอีกมากมายหลายเรื่อง
ขออนุญาตแชร์ข้อมูลบางส่วน เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
ครับ…คุณลิ้ม เป็นคนมีพลัง เป็นคนคิดบวก เป็นนักสู้ที่มีความมุ่งมั่น มีพลังการสร้างสรรค์อย่างมากมาย ขณะที่การดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ ล้วนแฝงไปด้วยปรัชญาชีวิตและศาสนา
ไม่ต้องอื่นไกล ขณะที่นักธุรกิจหรือใครหลาย ๆ คน เมื่ออายุย่างเข้าวัยเกษียณก็มักจะอยากวางมือ อยากถอดหัวโขน อยากปลดพันธนาการ อยากเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อน อยากปล่อยวาง
แต่คุณสมชัยในวันนี้ แม้วัยจะล่วงเข้า 64 แล้ว แต่ยังสนุกกับงานแฟชั่น งานศิลปะ ที่ตัวเองชื่นชอบหลงใหล ยังทำงานแฟชั่นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
คุณสมชัยเล่าให้ฟังว่า “…ตอนเป็นหนุ่มก็อยากจะเกษียณสัก 50 คงจะเท่ แต่พอซ้อมเกษียณดูปรากฏว่าไม่เวิร์ก ถ้าหยุด ไม่มีงานทํา รู้สึกว่าจิตใจห่อเหี่ยว ในแต่ละวันมันไม่มีค่า เลยต้องออกมาทํางาน ทําไปทํามามันก็สนุก ทุกวันก็ยังสนุกกับงานอยู่”
“…จริง ๆ ผมเรียนรู้ผิดถูกมาเยอะพอสมควร ผ่านการล้ม ผ่านการลุก เมื่อล้มแล้วก็ต้องลุก เมื่อลุกได้แล้วก็ตั้งท่าให้ดีอย่าให้ล้มอีก แต่ถ้ามันล้มอีกก็ต้องลุกใหม่ให้เป็น มันเป็นสัจธรรม ไม่มีใครหรอกที่จะยืนได้ตลอด ยืนได้ตลอดไม่มี แล้วล้มตลอดก็ไม่มี”
“…งานอะไรที่ทํางานแล้วสนุก เป็นประโยชน์กับตัวเรา สังคมเรา และทีมงาน ถ้าคุณได้สิ่งเหล่านี้อยู่ในใจคุณแล้ว คุณยังไม่มีความสุขอีก คุณต้องการอะไรมากกว่านี้อีกล่ะ”
หรือแม้กระทั่งเรื่องการออกกำลังกาย ใครจะคิดว่าชายในวัย 64 ที่คลุกอยู่กับงานแฟชั่นและศิลปะ จะมีกล้ามแขนแข็งเป๊ก แข็งขนาดว่าคนวัยหนุ่มสาวต้องอาย ซึ่งคุณลิ้มเฉลยให้ฟังว่า เขาเป็นคนที่มีวินัย ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน และทุกครั้งที่มีโอกาส โดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์มใด ๆ
“…เราจะบอกว่าไม่ค่อยมีเวลามันก็จริง แต่ว่ามันต้องมีใจ ฉะนั้น มีเวลาแค่ไหนก็สามารถออกกำลังกายได้ ผมก็ตอนเช้าง่ายสุด คือมีลูกกลิ้ง (roller slide) ยกละ 20 ถ้าวันธรรมดาก็ 60 เสาร์-อาทิตย์ ก็ 100 และอีกอย่างก็คือ ไม่ขึ้นลิฟต์ ใช้วิธีเดินขึ้น-ลงบันได 6 ชั้น หรือรถติดก็จะให้คนขับกลับ ผมก็จะเดินกลับ เดินไปเรื่อย ๆ การออกกำลังกายไม่จำเป็นว่าจะต้องอยู่ในแพลตฟอร์ม ต้องใส่รองเท้า ต้องใส่ชุดโน่นนี่”
“…ชีวิตมันเป็นงานศิลปะ ก็ไม่พยายามขีดเส้นว่าเราต้องอยู่ในกรอบ อีกด้านหนึ่งผมมักจะนำเอาธรรมะมาดําเนินชีวิตอย่างมีศิลปะ คือรู้สติอยู่ประจํา อยู่กับปัจจุบันให้ได้ แล้วก็สําคัญคือต้องเป็นคนขำ อะไรหัวเราะได้หัวเราะเหอะ ทุกข์ก็หัวเราะบ้าง สุขก็หัวเราะบ้าง เพราะทุกข์กับสุขมันแค่เป็นเส้นบาง ๆ เกินความสุขไปคุณก็ต้องรอรับความทุกข์ มันเป็นสัจธรรมของการขึ้นลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป”
ฟังคุณสมชัยจบ…ต้องบอกว่ามีไฟ มีความฮึกเหิมอีกเป็นกองเลย
หลังจากสัมภาษณ์ เบื้องต้นผมตัดสินใจเดินจาก เกษร วิลเลจ มุ่งหน้าสู่สยามพารากอน เป็นการออกกำลังและถือโอกาสเดินชมกรุงไปในตัว
แค่ร่างกายแข็งแรง สนุกกับงานที่ทำ แค่นี้ชีวิตแฮปปี้สุด ๆ แล้ว