
คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
วันหยุดสุดสัปดาห์ หลานสาววัยแรกแย้มอาสาพาอาไปช็อปปิ้งที่ใหม่ เว้นวรรคห้างหรูในเมืองชั่วครู่
นางบอกว่า คนรักษ์โลกจริง ๆ ต้องมาที่นี่ “บางซื่อจังชั่น-Bangsue Junction” หรือ “ตึกแดง จตุจักร” คอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดย่อม ๆ ทำเลเชื่อมต่อสถานีกลางบางซื่อ หรือชื่อเป็นทางการ “กรุงเทพอภิวัฒน์”
เราวางแผนนั่งรถเมล์ไฟฟ้าจากบ้านฝั่งธน มาต่อ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีท่าพระ ไปสถานีกำแพงเพชรประตูทางออกที่ 1 เดินไปนิดเดียวก็เจอตึกแดง ซึ่งอยู่ใกล้กัน
ส่วนตลาดนัดจตุจักรเดินข้ามถนนไปถึงกันได้แป๊บเดียว
เมื่อไปถึงเราก็อึ้ง เพราะเป็นโลกของคนรุ่นใหม่ ที่มาเดินเที่ยว กิน ช็อป เหมือนย้อนเวลาที่เราเคยมา JJ หรือตลาดนัดจตุจักร เมื่อครั้งเฟื่องฟู
ต่างกันแค่ ในตึกแดงเป็นแหล่งช็อปปิ้งติดแอร์ แต่เจเจเป็นตลาดนัดเอาต์ดอร์ ร้อนแสนร้อน แต่สนุก
อารมณ์ความรู้สึกคงไม่ต่างกัน

“ตึกแดง จตุจักร” เป็นอาณาจักร “สินค้ามือสอง” และของแรร์ไอเทมที่ยังสภาพดี ราคาไม่แพง เหมาะกับชนชั้นอย่างเรา (ประโยคนี้หลานพูด อาไม่ได้พูด)
ความตั้งใจของนิวเจน เขาต้องการซัพพอร์ตโลกใบนี้ จึงพุ่งเป้ามาหาซื้อเสื้อผ้ามือสองที่มีหลากสไตล์
ความเยอะอาจไม่เท่าแพลทินัมที่ขายเสื้อผ้ามือหนึ่งราคาแสนถูก ถ้าซื้อ 3 ชิ้นขึ้นไป
จุดเด่นที่นี่เป็นแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่ เป็นพื้นที่นอกบ้านที่รวมคนวัยเดียวกัน เป็นเดสติเนชั่นที่มีโพซิชันนิ่งชัดเจน
สาวกแฟชั่นวินเทจจะชอบ เพราะเลือกของได้ทั้งวัน เพลินโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเสื้อผ้า รวมถึงกระเป๋า เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย ของแต่งบ้าน ของตกยุคแต่ดูมีมูลค่าเมื่อเอามารวมกัน เช่น กล้องฟิล์ม เทปคาสเซต
ขาเมื่อยก็นั่งพักชิล ๆ ตามร้านกาแฟในตึก นั่งชมวิวดูรถไฟฟ้าผ่านกระจกใส ยิ่งวันหยุดคนยิ่งเยอะ เป็นบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ไม่เหมือนหลาย ๆ สถานที่ที่บ่นว่าเงียบ
พูดถึง “เสื้อผ้ารียูส” ดีและถูกจริง
เมื่อเทียบกับเสื้อผ้าจาก 3 ร้านฟาสต์แฟชั่นดัง ๆ ในห้าง แน่นอนว่าของใหม่ย่อมดีกว่า สดกว่า เป็นธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ เบื้องหลังของการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้ามือสองมาใส่นั้น เพราะคนรุ่นใหม่เขาห่วงใยโลก ไม่ยิ่งหย่อนกว่าคนรุ่นสูงวัย
ลึกซึ้งกว่านั้น กลุ่มนิวเจนเขามีจิตวิญญาณและสำนึกทางปัญญาที่ดี
ยิ่งได้ข้อมูลมาว่า การผลิตเสื้อผ้าแต่ละชิ้น อุตสาหกรรมการผลิตต้องใช้ทรัพยากรมากมาย ของหลายอย่างต้องถูกทำลาย หรือเกิดมลพิษ เมื่อสินค้าตกรุ่น ตกค้าง ขายไม่ออกจนเกิดปัญหาล้นสต๊อก สุดท้ายต้องเข้าเตาเผา
จุดนี้แหละที่นิวเจนเขาร้องยี้ !!!
ซึ่งเราก็ไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ว่ามีการเผาจริงเหรอ ?

ในหัวเราก็มีคำถามมากมาย ทำไมผู้ประกอบการไม่เอาไปบริจาคให้พลเมืองในประเทศที่ยากจนหรือลำบาก
ทำไมไม่เอาไปลดราคาถูก ๆ แล้วติ๊กว่า เป็นสินค้ามีตำหนิ ดีกว่าไปเผาทำลายให้เกิดพอลลูชั่น
คนรุ่นลูกมีความรู้คิด ยิ่งเขายังไม่มีรายได้มากมาย เขาเลยต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตและใช้เงิน
ต้องทำตัวให้สิ้นเปลืองน้อยที่สุดต่อโลกใบนี้
เพราะทรัพยากรธรรมชาติกำลังร่อยหรอ คนรุ่นใหม่จึงต้องตระหนัก และทำให้ถึง ต้องไม่นิ่งดูดาย ต้องไม่ใช้ชีวิตที่ดีแต่เปลือก
คนที่มีความเป็นมนุษย์จริง ๆ ต้องรู้สึกรัก หวงแหน ทะนุถนอมธรรมชาติ และเอื้ออาทรต่อมวลมนุษย์ด้วยกัน
เราจึงเห็นทิศทางของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ “จิตสำนึก” เป็นตัวนำทาง มีทัศนคติด้านบวก และสร้างการเปลี่ยนแปลง
พวกเขาจึงชังโลกที่ไร้เหตุผล สิ้นหวัง และเปล่าเปลี่ยว
โดยเฉพาะการทำลายมิตรภาพ เพียงแค่ความคิดไม่ตรงกัน หรือเป็นความเห็นของคนละพรรคและพวก
จนเป็นที่มาของปัญหาสังคมที่แตกสลาย ก้าวร้าว และตัวใครตัวมัน