
คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : สมถวิล ลีลาสุวัฒน์
วันก่อนเพื่อนรุ่นน้องนัดเจอกัน ขอเป็น “ร้านนาถะ” ย่านประชานิเวศน์ 1 ใกล้มติชน เราก็เอ๊ะ ! ร้านนี้ไม่เคยไป แล้วอยู่แถวนี้ด้วย คุยไปคุยมาถึงรู้ว่า เป็นร้านแนวคาเฟ่สายมู เจ้าของร้านชื่อ “หมอบี” เป็นหมอดูหนุ่มหน้าตาดี
รายได้บางส่วนบริจาคให้กับวัดพระบาทน้ำพุด้วย แก๊งสาวเลยอิ่มใจ
ย้อนไปวันวาเลนไทน์ เดือนแห่งความรัก “น้องเอ้” เลขา กอง บก.ประชาชาติธุรกิจ ดูสวยผิดตา ถามไถ่ได้ความว่า “หนูมีแฟนแล้วค่ะ” ดีใจกับเอ้ด้วย ถามต่อว่า เจอกันยังงัย หน้าตาดีมั้ย นิสัยล่ะ น้องบอกสเป็กครบ เพราะหนูไปขอจากพระแม่ลักษมี ที่ตึกเกษรทาวเวอร์ ย่านราชประสงค์
ขอยังงัยให้ได้ เอ้บอกว่า ต้องกำหนดไทม์ไลน์ค่ะ หนูขอพระแม่ฯ ช่วยให้เจอกันภายในปี 2567 (เอ้บนเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา) 2 เดือนผ่านไป เอ้ได้สมใจปรารถนา ทำให้น้องเชื่อเรื่องแรงอธิษฐานและสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก
ส่วนสาวออฟฟิศที่ชอบดูหมอ ครั้งหนึ่งเคยถามน้อง ๆ ที่บริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ตอนนี้ฮิตดูกับใคร
ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียว “หมอผีเสาวรีย์ค่ะ” ส่วนใหญ่จะถามเรื่องงาน และความรัก ทั้งลงความเห็นว่า “แม่นมาก”
ช่วง 2 เดือนแรกของปีใหม่ 2568 ได้เกิดปรากฏการณ์มีประชาชนจำนวนมาก จากทุกสารทิศแห่เดินสายไปไหว้พระทำบุญที่สุพรรณบุรี ตามรอยอินฟลูเอนเซอร์ สายมูชื่อดังโดยแห่กันไปไหว้ขอพรที่ “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” เพื่อสักการะ “พระธาตุจังหวัดสุพรรณบุรี” ตามคำแนะนำหมอผีเสาวรีย์ แบบครบจบในที่เดียว ทั้งไหว้พระ ทำบุญ ชมโบราณสถานเก่าแก่
เพื่อเสริมดวงตั้งแต่ต้นปี ด้วยวิธีไหว้ ตามแบบฉบับหมอผีเสาวรีย์ มีดอกบัว 9 ดอก เทียน 9 เล่ม ธูป 3 ดอก
ไฮไลต์อยู่ที่ “องค์พระปรางค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพระพิมพ์ผงสุพรรณบุรี ที่โด่งดังมาก
ทำให้ชุมชนบริเวณวัดคึกคักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ข้าวของอาหารการกินขายดีสุด ๆ ทำเอาแม่ค้าพ่อค้าปลื้ม เลยนับถือศรัทธา “อาจารย์เป๊ก หมอผีเสาวรีย์” ในทันที
ยิ่งช่วงปีใหม่ ตรุษจีน ชาวบ้านจะเบิกฤกษ์ขอความเป็นสิริมงคลในชีวิต ด้วยการกราบไหว้ขอพรพระ คนจีนก็จะไปไหว้ศาลเจ้าตามสถานที่ต่าง ๆ ที่บรรพบุรุษนับถือ
ที่นิยมมากคือ การไหว้และทำพิธีแก้ชง ที่ดังสุดและยังไม่มีวัดไหนลบสถิติได้ คือ วัดมังกรกมลาวาส หรือ “วัดเล่งเน่ยยี่” ตรงคลองถม ที่ทุกปีช่วงตรุษจีนคนจะไปไหว้แก้ปีชง ซื้อชุดไหว้ ชุดบูชา ชุดสะเดาะเคราะห์ ราคา 100 บาท
แล้วทำพิธีปัดเป่า ตามป้ายบอกแต่ละขั้นตอน หน้าองค์ “ไฉ่ซิงเอี๊ย” เทพเจ้าของจีนที่เชื่อกันว่า จะประทานพรเรื่องโชคลาภ ความร่ำรวย และสุขภาพ
ซึ่งถือเป็นเทพองค์แรก ๆ ที่ผู้คนจะมากราบไหว้ เพราะเชื่อว่า เป็นเทพที่สำคัญที่สุดในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่
แม้จะมีวัดเล่งเน่ยยี่ 2 แล้วที่ตลาดบางบัวทอง ใหญ่และอลังการมาก ผู้คนก็ยังคงนิยมมาที่วัดต้นตำรับ แถวเยาวราช
เช่นเดียวกับการไปไหว้ “ไต่ฮงกง” เทพในใจของชาวจีนที่เป็นคนธรรมดา แต่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสจนมหาชนยกย่อง เป็นต้นกำเนิดของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ย่านพลับพลาไชย
ทุกปีคนไทยเชื้อสายจีนและคนจีน 100% จะนิยมมากราบไหว้ขอพร ทำบุญข้าวสาร บริจาคเงินซื้อผ้าดิบห่อศพ โลงศพ
แล้วทำพะเก่ง ชื่อละ 20 บาท เพื่อสะเดาะเคราะห์ พร้อมรับขนมมงคล (จันอับ) และสาคูต้มน้ำตาลทรายแดงใส่สมุนไพรจีน รสชาติลิมิเต็ด ซึ่งเชื่อกันว่า กินแล้วจะเฮง ปีนี้ทางมูลนิธิขอบริจาคเป็นเงินสด งดรับโอน งดรับบัตรเครดิต สวนกระแสเงินดิจิทัล
อีกวัดที่บรรดาไฮโซและกลุ่มจ๊อบส์ เวิร์กเกอร์ เริ่มไปไหว้ คือ “วัดทิพยวารีวิหาร” แถวบ้านหม้อ วังบูรพา หลังดิ โอลด์ สยามฯ อีกหนึ่งตำนานของวัดจีนเก่าแก่ย่านพาหุรัด
หรือ “วัดมังกรเขียว” เพราะมีเทวรูปเทพมังกรสีเขียว (แชเล่งเอี้ย) ตั้งตระหง่าน เชื่อว่าจะคอยปกปักรักษาบ่อน้ำทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้คนนิยมมาสักการะขอพร ทำพิธีแก้ชง
ล่าสุดที่ฮือฮามาก คือ การบูชาหุ่นยนต์ “ออพติมัส ไพรม์” ย่านตลาดน้อย หุ่นยนต์ที่เจ้าพ่อเซียงกงสร้างขึ้น เพื่อหวังสร้างแลนด์มาร์กใหม่ให้ชุมชน ทำไปทำมา วันนี้มีการรำถวายเหมือนหน้าพระพรหม แยกราชประสงค์ พร้อมถวายพวงมาลัย แก้บนด้วยน้ำมันเครื่อง ทำเอานักท่องเที่ยวตื่นตา มาถ่ายรูปลงโซเชียล เป็นข่าวดังทั่วโลก
วันนี้คนไทยมาไกลจริงๆ ไกลเกินคาด