
คอลัมน์ : SD Talk ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา
ผมเชื่อว่าคนทำงานเกือบทุกคนมักได้ยินคำที่พูดกันบ่อย ๆ ว่า ออฟฟิศของเราอยู่กันแบบครอบครัว อยู่กันแบบพี่น้อง ทุกคนรักใคร่กลมเกลียวกัน
แต่ความจริงแล้ว คนในทีมน่าจะไม่ได้คิดแบบนั้นกันทุกคน พวกเขาอาจรู้สึกว่าเราอยู่กันแบบพี่น้องแต่เพียงในนามก็ได้ เพราะการอยู่กันแบบครอบครัวไม่มีการโดนไล่ออก ไม่มีการถูกตัดสิน และไม่มีการให้คะแนน แต่ที่ออฟฟิศมีทุกอย่างที่ครอบครัวไม่มี
Harvard Business Review ได้นำเสนอรูปแบบใหม่ของการทำงานร่วมกัน คืออยู่กันแบบทีมนักกีฬา (แทนที่จะอยู่กันแบบครอบครัว) เพราะหากมองว่าเป็นทีมนักกีฬา เราจะตั้งเป้าหมายร่วมกัน แข่งขันกันแบบยุติธรรม มีกฎ มีกติกา และรู้ว่าตอนนี้ควรเป็นหน้าที่ของคนไหน ใครต้องทำอะไร ใครควรต้องลงเล่น และใครควรนั่งรอที่ม้านั่งสำรอง ไม่เกี่ยวกับเก่งหรือไม่เก่ง แต่เกมตอนนี้เหมาะกับใครมากกว่า
วิธีการบริหารแบบทีมนักกีฬาทำได้ดังนี้
1.ตั้งเป้าหมายและหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน : ทุกคนในทีมรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร และมีใครเป็นเพื่อนร่วมทีม ทุกคนรู้ว่าตนเองต้องประสานกับใคร หรือช่วยเหลือใคร
2.แข่งขันกันอย่างยุติธรรม : มีกติกาหรือเกณฑ์การประเมินผลที่ชัดเจน เช่น มี KPI ของทีมที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน ทุกคนจะได้รับการประเมินผลงานภายใต้กติกาเดียวกัน ใครทำได้ทุกข้อและทำได้ดีก็ต้องได้คะแนนเยอะกว่า เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผลงานไม่ได้ถูกตัดสินจากความรู้สึกส่วนตัวของหัวหน้าหรือโค้ชเท่านั้น
3.สนับสนุนการทำงานเป็นทีม : ให้ทุกคนได้แชร์ความรู้ใหม่ ๆ เสนอความเห็น ใครมีปัญหาอะไรก็มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ช่วยกันแก้ หรือให้คำแนะนำ ไม่ใช่เอาแต่อมพะนำ เก็บปัญหาไว้ขบคิดอยู่คนเดียว จนกลายเป็นพวกอมทุกข์ไป
4.ฉลองความสำเร็จและเรียนรู้จากความล้มเหลว : ในการประชุมทีมจะไม่โฟกัสแค่สิ่งที่ทำสำเร็จ แต่ให้ทุกคนได้แชร์สิ่งที่พลาด และวิธีการปรับปรุง ว่าหากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกจะแก้ไขอย่างไร
5.เคารพเวลาส่วนตัว : นักกีฬาต้องมีชั่วโมงพัก ทีมทำงานก็เช่นกัน หลังเลิกงานหากไม่ด่วนก็ไม่ควรรบกวนเพื่อนร่วมงานหรือพนักงาน หรือวันหยุดถ้ารอได้ค่อยคุยวันจันทร์ จะทำให้ทุกคนสบายใจและไม่อึดอัด
จากนี้ไปหวังว่าคงจะไม่ได้ยินหัวหน้าคนไหนพูดว่า เราทำงานกันแบบครอบครัวแล้วนะครับ เพราะถ้าในความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น การพูดอย่างแล้วทำอีกอย่างจะเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือและกำลังใจในการทำงานของพนักงานทุกคน