
คอลัมน์ : SD Talk ผู้เขียน : ดร.วัลลภา ซึ้งกมลพิสุทธิ์ อาจารย์ประจำกลุ่มสาขาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล
“Generative AI” (Gen-AI) เข้ามามีบทบาทในชีวิตการทำงาน เพราะช่วยสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น และประหยัดเวลาทำงานได้อย่างมาก โดยคนทำงานสามารถเอาเวลาที่เหลือไปโฟกัสกับงานส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น
ซึ่งที่ผ่านมาหลายองค์กรได้นำ GEN-AI มาช่วยในการทำงาน และใช้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง (Transformation) ในองค์กร เช่น การตั้งวิสัยทัศน์และสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวก เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เน้นไปที่ผลลัพธ์และมูลค่าของงานที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารบุคลากร (HR) เป็นหนึ่งหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญ และสามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ ด้วยการนำ GEN-AI มาช่วยหาวิธีการทำงานใหม่ ๆ สร้างวัฒนธรรมองค์กรในช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่างราบรื่น
ดังนั้น บทความนี้จะนำเสนอประเด็นสำคัญ เกี่ยวกับการนำ GEN-AI มาใช้ใน HR และกรอบการทำงานที่จะช่วยให้ด้านบริหารบุคลากร (HR) สามารถนำ GEN-AI มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรกที่พนักงานเข้ามาร่วมงาน ไปจนตลอดวงจรชีวิตพนักงาน (GEN-AI in Employee Lifecycle)
เช่น ขั้นตอนการวางอัตรากำลังคน การจัดทำ Job Description การสรรหา การพัฒนาฝึกอบรม การประเมินผลการทำงาน และกิจกรรมการมีส่วนร่วมของพนักงาน อย่างไรก็ตาม การนำ GEN-AI มาใช้ในด้านเหล่านี้จำเป็นต้องมีการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดี
ในงานสัมมนาระดับโลก SHRM Annual Conferences 2024 ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมงานได้พูดคุยถึงบทบาทการนำ GEN-AI มาช่วยแบ่งเบาภาระงานด้านบริหารบุคลากรในองค์กร โดยให้แนวคิดการกำหนดกรอบการทำงาน เพื่อประเมินผลกระทบของ GEN-AI ในด้านต่าง ๆ ขององค์กร
อีกทั้งเพื่อให้แน่ใจว่า ข้อมูลและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของ GEN-AI มีความสอดคล้องกับนโยบายและค่านิยมขององค์กร ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้ตีกรอบแนวคิดการทำงานที่ควรพิจารณา เพื่อการนำ GEN-AI มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยประกอบ 4 ด้านหลัก ๆ ได้แก่ กฎหมายและนโยบาย (Legal and Policy Implications) วัฒนธรรมและการรวมทางสังคม (Cultural and Social Integration) คุณธรรมและจริยธรรม (Ethical and Moral Implications) และทรัพยากร (Resources)
ประเด็นที่หนึ่ง กฎหมายและนโยบาย เมื่อเราใช้ GEN-AI มาช่วยทำงานแล้ว ควรตรวจสอบว่าข้อมูลที่ GEN-AI ให้คำแนะนำมา มีความสอดคล้องกับกฎหมายและนโยบายขององค์กรเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ การนำ GEN-AI มาใช้ต้องไม่ละเมิดข้อบังคับที่มีอยู่ หาก HR พิจารณาถึงประเด็นนี้แล้ว จะช่วยให้แนวปฏิบัติต่าง ๆ เป็นไปตามกฎระเบียบและไม่มีความเสี่ยงด้านกฎหมาย
ประเด็นที่สอง วัฒนธรรมและทางสังคม GEN-AI Generative ควรถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เชิงบวกและเสนอแนวความคิดกิจกรรมที่สร้างทีมเวิร์ก ดังนั้น HR ควรพิจารณาและประเมินว่าข้อมูลจาก GEN-AI มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กรหรือไม่อย่างไร สิ่งนี้จะช่วยให้แน่ใจว่า GEN-AI สร้างสรรค์หลอมรวมพนักงานผ่านกิจกรรมและไม่ทำลายความสัมพันธ์ภายในองค์กร
ประเด็นที่สาม คุณธรรมและจริยธรรม การใช้งาน GEN-AI ควรเป็นไปตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมขององค์กร GEN-AI ต้องไม่ละเมิดหลักการที่องค์กรยึดถือ และ HR ต้องสร้างกรอบการทำงานอย่างชัดเจน มีจริยธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ตามมา เช่น ความลำเอียง หรือการละเมิดความเป็นส่วนตัว การใช้ GEN-AI เป็นเพียงเครื่องมืออย่างเดียวที่คัดเลือกผู้สมัคร หรือประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน รวมถึงการจัดสรรความตอบแทน
ประเด็นที่สี่ ทรัพยากร การพิจารณาทรัพยากรต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการนำ GEN-AI มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำงาน เช่น งบประมาณสำหรับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ในการใช้งาน GEN-AI ในรูปแบบต่าง ๆ และการให้ความรู้พื้นฐานทางเทคนิคเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผล และป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
ในบางกรณี องค์กรอาจต้องการการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยในการนำ AI มาใช้ โดยเฉพาะเมื่อองค์กรยังไม่มีกลยุทธ์การนำ AI มาใช้ที่ชัดเจน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับองค์กร โดยผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบและการบริหารจัดการ GEN-AI เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย ค่านิยมขององค์กร รวมถึงเป้าหมายทางธุรกิจผ่านทางงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
สุดท้ายการนำ GEN-AI มาใช้ใน HR เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน การวางกรอบการทำงานเพื่อประเมินผลกระทบของ GEN-AI ในด้านต่าง ๆ ขององค์กรจะช่วยให้ GEN-AI สามารถสนับสนุนการทำงานของ HR ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน