หัวหน้าต้องหยุดทำงาน

กรณีที่หัวหน้าต้องหยุดทำงาน
คอลัมน์ : SD Talk
ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หยุดทำงาน !

การเป็นหัวหน้าครั้งแรกคือ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากที่เคยมีหัวหน้าคอยดูแลเรา วันนี้กลายเป็นเราเองที่ต้องดูแลลูกน้อง ไม่ว่าจะเรื่องงาน ปัญหาชีวิต การเมืองภายในองค์กร ฯลฯ สารพันปัญหาล้านแปดให้ต่อสู้ทุกวัน เรียกได้ว่าปัญหาไม่ซ้ำจำสูตรแก้ไม่ได้

ทีมจะรอดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะ !

ความท้าทายของการเป็นหัวหน้าใหม่มีอะไรบ้าง ?

การเมืองในที่ทำงาน – จากที่เคยโฟกัสแค่งานตัวเอง ต่อไปนี้ต้องเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับทีมอื่น บริหารลูกน้อง บางคนก็ร่วมมือดี แต่บางคนก็ไม่ร่วมมือกับใครเลย

เพื่อนเก่ากลายเป็นลูกน้อง – บางทีก็วางตัวลำบากเหมือนกัน จะให้เหมือนเดิมก็ไม่ได้ เดี๋ยวกลายเป็นขี้ปากคน ว่าสนิทกับลูกน้องบางกลุ่มมากกว่าบางกลุ่ม แต่ถ้าจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย ก็กลัวเพื่อน ๆ จะหาว่าเป็น “คางคกขึ้นวอ” ได้ดีแล้วลืมเพื่อน ไม่รู้จะทำยังไงดี

Advertisment

ขาดการเตรียมตัว – บางองค์กรไม่ได้มีการเตรียมการพัฒนาพนักงานเก่ง ๆ เพื่อขึ้นมาเป็นหัวหน้า จับพลัดจับผลูได้รับการโปรโมตแบบงง ๆ มุมหนึ่งก็ภูมิใจ อีกมุมก็หนักใจ เพราะจากคนที่เคยทำงานด้วยตนเอง กลายมาเป็นคนที่ต้องใช้คนอื่นทำงาน ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี จะไปสั่งก็เห็นว่าทุกคนยุ่งงานล้นมือ ไอ้ครั้นจะไม่สั่งก็กลัวจะถูกมองว่ากอดงานไว้คนเดียว

กระจายงานไม่เป็น ทำงานได้ไม่ดี เพราะยังจัดการไม่ถูกว่าจะควรวางตัวยังไง – ทำให้หัวหน้าใหม่หลายคนยังคงทำงานเดิมของตัวเอง และไม่ได้ใช้เวลาในการบริหารคนเท่าที่ควร สุดท้ายกลายเป็นองค์กรได้หัวหน้าแย่ ๆ มาหนึ่งคน และสูญเสียพนักงานเก่ง ๆ ไปอีกคนหนึ่งในเวลาเดียวกันแบบทูอินวัน

Advertisment

ดังนั้น มีอะไรบ้างที่หัวหน้าต้องหยุดทำโดยด่วน ?

หยุดการทำงานเก่าที่เคยทำ ! คุณต้องลดงานในมือลง แล้วกระจายงานให้ลูกทีมทำมากขึ้น เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของคุณอีกต่อไป สิ่งที่ต้องโฟกัสคือ ทำยังไงให้ทีมทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

หยุดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ! หน้าที่ของหัวหน้าคือการพัฒนาคน ไม่ว่าจะให้คำแนะนำ ปรึกษา การโค้ช หรือวิธีอื่นใดก็แล้วแต่ ดังนั้น ความสำเร็จของคุณควรถูกวัดจาก “ทีมงานเก่งขึ้น” ไม่ใช่ดูจากผลงานเพียงอย่างเดียว เพราะผลงานอาจเกิดมาจากการที่คุณทำงานหนัก ทั้งคิดและทำอยู่คนเดียวก็เป็นได้

หยุดแก้ปัญหาทุกอย่างเอง ! บางครั้งลูกน้องมีปัญหามาปรึกษา ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่มีผลกระทบร้ายแรงหรือสำคัญเร่งด่วนแบบสุด ๆ คุณลองหยุดให้คำตอบ แล้วเปลี่ยนมาเป็นการตั้งคำถามให้พวกเขาได้หัดคิด หัดแก้ปัญหาแทน นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานแล้ว เมื่อพวกเขาเก่งขึ้น คุณเองก็จะสบายขึ้น เพราะมีคนเก่ง ๆ อยู่ในทีมอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าข้อแตกต่างระหว่างการเป็นหัวหน้ากับลูกน้องคือ การเปลี่ยนจากความสำเร็จส่วนตัวเป็นความสำเร็จของส่วนรวม ในโลกนี้ไม่มีหัวหน้าที่เพียบพร้อม 100% เพราะมันจะมีเรื่องราวใหม่ ๆ เข้ามาให้ได้เรียนรู้อยู่ทุกวัน