โค้ชกี่ปีก็ไม่ดีขึ้นเลย ผิดที่เราหรือเขา

คอลัมน์ : sd Talk
ผู้เขียน : อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา

การโค้ชเป็นหนึ่งในวิธีพัฒนาคนที่มีประสิทธิภาพ หลาย ๆ องค์กรเลยพยายามให้หัวหน้าโค้ชพนักงาน

แต่หลังจากโค้ชกันไปได้สักระยะ พนักงานบางคนก็ดีขึ้น แต่บางคน ยิ่งโค้ชยิ่งท้อใจ จนเสียความมั่นใจไปเลยก็มี

นั่นเป็นเพราะว่าไม่ใช่ทุกคนเหมาะกับการโค้ช เพราะการโค้ชคือการชวนคิดแล้วให้ผู้ได้รับการโค้ชเป็นผู้เค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง

ดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว มีความรู้ความสามารถในระดับหนึ่ง

และที่สำคัญคือคนคนนั้นต้องเปิดใจด้วย ภาษาอังกฤษเรียกคนเหล่านี้ว่า เป็นพวก Coach-able คือพวกที่พร้อมสำหรับการโค้ช

วันนี้ ขอแนะนำวิธีการเฟ้นหาพนักงานที่พร้อมสำหรับการโค้ช

ADVERTISMENT

1.มองหาคนที่มีความสามารถ : ลองดูว่าพนักงานในทีมคนไหนที่ถ้าปล่อยให้ทำงานด้วยตัวเองแล้วคุณสบายใจ กลางคืนกลับบ้านนอนได้แบบไม่ต้องขวัญผวา

เขาอาจไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุด หรือกล้าแสดงความคิดเห็นมากที่สุด แต่ผลงานที่ได้นั้นมีประสิทธิภาพและเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด

ADVERTISMENT

2.เป้าหมายของพนักงานคนนั้นใหญ่แค่ไหน : บางคนทำงานดีมากจนคุณอยากจะโปรโมต แต่เป้าหมายของเขาคือ ต้องการทำงานไปเรื่อย ๆ หลังเลิกงานก็ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว

การจะไปเคี่ยวเข็ญให้เป็นคนขวนขวาย เรียนรู้ มีความทะเยอทะยานอยากเติบโต อาจกลายเป็นการสร้างความกดดัน

ถ้าไม่ชอบ หรือทนไม่ไหวก็อาจตัดสินใจลาออกไป ดังนั้น ต้องมองหาคนที่อยากเติบโตด้วย ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว

3.พนักงานอยากพัฒนาตัวเองไหม : หากเขาไม่รู้สึกว่า ตัวเองต้องพัฒนา มองไม่เห็นปัญหา ก็คงไม่คิดว่า ตัวเองต้องทำอะไรเพิ่ม ที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว

ดังนั้น ถ้าเขาไม่ตระหนักรู้ก็จะไม่สามารถพัฒนาได้

ถ้าคุณพอมีเวลาก็ลองทำให้เขาเปิดใจดู แต่ถ้างานเยอะหรือยุ่งมาก ก็อาจต้องมองหาคนใหม่

องค์ประกอบสำคัญของการโค้ช คือ ต้องรับรู้ ยอมรับ ถึงจะปรับเปลี่ยนได้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่โค้ชไม่ได้ จะไม่พัฒนาเขาเสียเลยนะ

แค่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีให้เหมาะสมกับแต่ละคน

ซึ่งก็เป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่งของหัวหน้า ว่า “มองลูกน้องออกไหม”