คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
เราเจอกับวิกฤติโควิดมา 2 ปีกว่าแล้ว
ทุกประเทศล้วนเจอมรสุมเศรษฐกิจ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
มากน้อยแตกต่างกัน
ปี 2562 เศรษฐกิจยังดีอยู่ พอเข้าปี 2563 เจอโควิด เศรษฐกิจทุกประเทศซบเซาย่ำแย่กันแบบพร้อมเพรียงกัน
แต่ตอนนี้ฟื้นตัวกันแล้วครับ
GDP ของแต่ละประเทศเริ่มโงหัวขึ้น กลับมาสูงกว่าปี 2562 ปีก่อนที่จะเกิดโควิด
แต่มี 3 ประเทศในโลกที่ GDP ยังต่ำกว่าปี 2562
ประเทศแรก อิตาลี
ประเทศที่สอง ญี่ปุ่น
และประเทศที่สาม ประเทศไทย
ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากที่ไทยอยู่ในระนาบเดียวกับ “ญี่ปุ่น” มหาอำนาจทางเศรษฐกิจประเทศหนึ่งของโลก
ครับ เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ๆ ในโลกถือว่าฟื้นตัวช้ามาก
และยิ่งมาเจอกับปัญหาเงินเฟ้ออีก
ถ้า “เงินเฟ้อ” เกิดจากเศรษฐกิจดี ดีมานด์เพิ่ม แบบนี้การขยับดอกเบี้ยของแบงก์ชาติจะช่วยลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อได้
แต่ถ้าเงินเฟ้อมาจากต้นทุนสินค้าสูงขึ้น และประเทศนั้นเศรษฐกิจไม่ดี
การขึ้นดอกเบี้ยจะยิ่งซ้ำเติม เพราะเพิ่มต้นทุนของผู้ผลิตสินค้า
ตอนนี้นักธุรกิจกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอีก 2 ตัว
คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ และค่าไฟฟ้าที่กำลังจะขึ้นราคา
ถ้าขึ้นตามอัตราที่การไฟฟ้าฯเสนอมา คือ ขึ้นจากหน่วยละประมาณ 3.79 บาท เป็น 4.72 บาท
รับรองว่าราคาสินค้าจะขยับขึ้นอย่างมโหฬารอีกรอบหนึ่ง
ไม่ใช่แค่ต้นทุนของการผลิตสินค้าเท่านั้น
ต้นทุนการจัดจำหน่ายก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ผมเพิ่งรู้ว่าค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศรายหนึ่งเสียค่าไฟฟ้าปีละประมาณ 4,000 ล้านบาท
ถ้าค่าไฟเพิ่มขึ้น 10% ก็คือ 400 ล้านบาท
20% ก็ 800 ล้านบาท
ดังนั้น ค่าวางสินค้าก็คงต้องขยับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
การที่รัฐบาลสั่งเบรกไม่ให้ประกาศขึ้นค่าไฟฟ้า เพราะคงมองออกว่าค่าไฟฟ้านั้นกระทบทุกระดับ
ตั้งแต่ธุรกิจจนถึงชาวบ้านทั่วไป
เขาคงกลัวเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งบอกว่า การที่ปล่อยให้ “เงินเฟ้อ” ร้อนแรงไปเรื่อย ๆ
ในทางจิตวิทยา จะทำให้สินค้าทุกอย่างขึ้นราคาแบบตามใจฉัน
ไม่ได้ขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง
เพราะเงินเฟ้อนาน ๆ ทำให้ผู้บริโภคยอมรับแบบหมดอาลัยตายอยาก
เหมือนเชื่อไปแล้วว่าสินค้าทุกอย่างต้นทุนเพิ่มขึ้น
การขึ้นราคาเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เราจึงเห็นราคาอาหารที่ขยับขึ้นแบบไม่สนใจต้นทุนแท้จริง
จาก 45 เป็น 60 บาทเฉย ๆ เลย
เพิ่มขึ้น 33% แบบไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
นักเศรษฐศาสตร์นั้นกลัวเรื่อง “เงินเฟ้อ” มาก
เขาบอกว่า “เงินเฟ้อ” ร้ายแรงกว่าเศรษฐกิจอ่อนแอ
อยู่นานยิ่งน่ากลัว
เหมือนกับ “คน”
อยู่ใน “อำนาจ” นานเกินไป ยิ่งน่ากลัว
8 ปีคิดว่านานไหมครับ
ผมตั้งคำถามเฉย ๆ
ไม่ได้ไล่นะครับ