Market-think : ปัญหาการสื่อสาร

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คงต้องสรุปบทเรียนเรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการจากเดือนละ 1 ครั้ง เป็น 2 ครั้ง

เพราะกลายเป็นเรื่องที่คุณเศรษฐาเสียคะแนน

ทั้งที่มองในมุม “มนุษย์เงินเดือน” การได้เงินเดือนเร็วเท่าไร ยิ่งเป็นเรื่องดี

แทนที่จะรอถึงสิ้นเดือนได้ทั้งก้อน

ได้ครึ่งหนึ่งก่อนตอนกลางเดือน

และปลายเดือนก็ได้อีกครึ่งหนึ่ง

Advertisement

สภาพคล่องในกระเป๋าดีขึ้นชัดเจน

เพราะการวางแผนการเงิน 15 วัน ง่ายกว่า 30 วัน เยอะเลยครับ

ตอนทำงานใหม่ ๆ ผมเป็นคนที่ไม่เคยวางแผนการเงินอย่างละเอียด จึงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี

เพราะเคยรับเงินเดือน 2 งวดมาก่อน

Advertisement

ใช้เงินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 10 กว่าวันก็รู้ว่าปริ่มน้ำแล้ว ต้องประหยัด

ตอนนั้นจึงค่อยวางแผนการเงิน

เพื่อนชวนไปไหนไม่ไป ตอนเย็นเริ่มกินมาม่า

แต่อึดประมาณ 3-4 วัน เงินเดือนงวดใหม่ก็ออก

ไม่ต้องยืมเงินใคร

แต่ถ้าใครรับเงินเดือนงวดเดียว ต้องวางแผนการเงิน 30 วัน

ถ้าลืมวางแผนการเงิน กว่าจะรู้ตัวว่าปริ่มน้ำก็เหลือเวลา 1 สัปดาห์

นานขนาดนี้บางทีก็อึดไม่ไหว ต้องกู้หนี้ยืมสิน

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงครับ

แต่มีบางคนบอกว่าข้าราชการส่วนใหญ่มีหนี้สินต้องตัดสิ้นเดือน

ถ้าเงินเดือนที่ออกสิ้นเดือนเหลือแค่ครึ่งเดียว จะเอาอะไรจ่าย

เขาอยากได้งวดเดียวเหมือนเดิม

เรื่องนี้ถ้าคิดแก้ปัญหาแบบง่าย ๆ ก็คือ เงินเดือนที่ได้ตอนกลางเดือนก็อย่าเบิกออกมา

รอให้ถึงสิ้นเดือนค่อยเบิก ก็จะเงินครบเหมือนเดิม

จะหักเท่าไรก็หักไป

แต่ถ้าเป็นเรื่องเอกสาร หรือระบบการตัดเงิน

เรื่องนี้เข้าใจได้ว่ายุ่งยาก เพราะต้องแก้ระบบ

แต่ถามว่าทำได้ไหม

ทำได้

เพราะตอนที่ผมกู้แบงก์ซื้อบ้านเมื่อ 30 ปีก่อน บริษัทก็ตัดเงินจ่ายแบงก์ 2 งวด

พ.ศ.นี้ ยิ่งไม่น่าจะยาก

คุณเศรษฐาคงคิดว่าเรื่องการปรับระบบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 งวด

ข้าราชการคงจะชอบ

เขาเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ในขณะที่เรื่องลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ยกเลิกหนี้เกษตรกร ฯลฯ แพลมออกมาก่อนที่จะประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก

คุณเศรษฐาคงคิดไม่ถึงว่าพอมีมติเรื่องนี้ออกมาจะเจอกระแสต้านจากข้าราชการเยอะมาก

เพราะเขามองปัญหาเรื่องระบบการตัดหนี้

และไม่รู้สึกว่าระบบใหม่ดีกว่าเก่าอย่างไร

เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา

เพราะคนที่รับเงินเดือนงวดเดียวคงนึกไม่ออกว่าเปลี่ยนมารับ 2 งวดจะดีกว่างวดเดียวอย่างไร

เพราะเงินเดือนก็เท่าเดิม

มันเป็นเรื่อง “ประสบการณ์” ครับ

บังเอิญผมเคยมีประสบการณ์ตรงมาก่อนก็เลยเห็นข้อดีของการจ่ายเงินเดือน 2 งวด

ล่าสุด ทางรัฐบาลก็ออกมาลดกระแสต้านด้วยการเปิดช่องให้ข้าราชการเลือกว่าจะรับงวดเดียวหรือ 2 งวด

ถ้าไม่ยุ่งยากในการทำงาน การเปิดทางเลือกแบบนี้ก็ดี เพราะจะได้รู้ว่าคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ฝ่ายไหนมากกว่ากัน

แต่ผลจากเรื่องนี้ ผมคิดว่าคุณเศรษฐาคงได้บทเรียน 3 เรื่อง

เรื่องแรก ก่อนจะออกมาตรการอะไรออกมา ต้องทำการบ้านมากกว่านี้ เพราะมติ ครม.ครั้งนี้คิดแต่เรื่องปรับระบบการจ่ายเงินเดือน

ไม่ได้คิดถึงเรื่องระบบการหักหนี้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของข้าราชการส่วนใหญ่

มองดาวคนละดวง

พออธิบายไม่ได้ว่าจะหักหนี้อย่างไร เรื่องที่สอง เรื่องการสื่อสาร

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลพลาดอย่างมากที่ไม่ได้เตรียมการสื่อสารที่ดีพอสำหรับการปรับระบบการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ

ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย

พอบอกว่าเปลี่ยนเป็น 2 งวดแล้วก็ปล่อยจอยเลย

แทนที่จะมีการแถลงรายละเอียด บอกข้อดีของแนวคิดนี้

มีอินโฟกราฟิก หรือคลิปสั้น ๆ ให้เห็นว่า ระบบการจ่ายเงินเป็นอย่างไร

ข้าราชการได้ประโยชน์อย่างไร

ถ้าศึกษาดี ๆ ก่อนว่ามีประเด็นไหนที่เขาไม่เข้าใจ หรือคัดค้าน ก็จะได้เตรียมข้อมูลชี้แจงได้

บทเรียนที่สาม คือ เรื่องความสำคัญของการปล่อยหมัด

“หมัดแรก” สำคัญที่สุด

ในขณะที่การประชุม ครม.นัดแรกมีเรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์หลายเรื่อง

ทั้งเรื่องลดราคาน้ำมัน ลดค่าไฟ และยกหนี้เกษตรกร

เรื่องแบบนี้ชัวร์ว่าได้คะแนนแน่ ๆ

แต่พอปล่อยหมัดชุดนี้พร้อมกับเรื่องการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด

เรื่องดี ๆ หาย เรื่องร้าย ๆ กลายเป็น “ข่าวนำ”

ทั้งหมดถือเป็นบทเรียนแรกในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา