
คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
ผมเพิ่งมีโอกาสไป “ฟูลมูนปาร์ตี้” ที่เกาะพะงันมาครับ
ตื่นตาตื่นใจทีเดียว
แม้จะรับรู้เรื่องราวความยิ่งใหญ่ของงานฟูลมูนปาร์ตี้มานานแล้ว
เห็นภาพ ดูรายการต่าง ๆ มามากมาย
แต่พอมาสัมผัสจริง ๆ ต้องยอมรับว่าเหนือความคาดหมาย
ผู้คนหนาแน่นเบียดเสียดกันพอ ๆ กับถนนข้าวสารตอนงานสงกรานต์
งานเริ่มตั้งแต่ตะวันตกดินจนพระอาทิตย์ขึ้น
นักท่องเที่ยวจะผลัดเปลี่ยนกันมาที่หาดริ้น ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตมากมายอะไร
งานครั้งที่เพิ่งผ่านไป มีนักท่องเที่ยวมาร่วมงานนี้ประมาณ 30,000 คน
แต่คนในพื้นที่บอกว่าแค่ 30,000 คน ถือว่ายังไม่พีก
เคยพีกสุดช่วงก่อนโควิด
50,000 คนครับ
คิดเล่น ๆ ว่าแค่ใช้จ่ายที่ชายหาดอย่างเดียวคนละ 1,000 บาท
ก็ 500 ล้านบาทแล้ว
นี่คือ รายได้เพียงแค่คืนเดียว
มีชายหาดหลายแห่งพยายามจัดงาน “ฟูลมูนปาร์ตี้” บ้าง แต่ความขลังสู้ที่เกาะพะงันไม่ได้
เพราะที่นี่เริ่มต้นก่อน และมีนักท่องเที่ยวบอกต่อกันไปเรื่อย ๆ
ระดับที่คนชอบ “ปาร์ตี้” แบบสุด ๆ ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต
ผมนั่งคุยกับ “เล็ก” นักธุรกิจรุ่นหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งมาปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างเป็นทางการ
หลังจากขายหุ้นบริษัทที่เขาก่อตั้งมาได้เงินมาจำนวนหนึ่ง
เขาก็ซื้อโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเกาะพะงัน
และเริ่มต้นใช้ชีวิตที่นี่อย่างจริงจัง
“เล็ก” เคยทดลองใช้ชีวิตที่เกาะพะงันกับ กทม. แบบครึ่งไป-ครึ่งมาประมาณ 2 ปี
เขาบอกว่าเวิร์กมาก
เทคโนโลยีช่วยเชื่อมเกาะพะงันกับ กทม.ให้อยู่ใกล้กันนิดเดียว
ทำงานแบบ WFH
เพียงแต่เขาไม่ได้ทำงานอยู่ที่บ้านใน กทม.
“เล็ก” ทำงานอยู่ที่เกาะพะงัน
ระหว่างการประชุมอาจมีเสียงลมทะเลแทรกเล็กน้อยให้เพื่อนอิจฉา
และความแตกต่างจากที่ทำงานใน กทม. ก็คือ เมื่อเขาประชุมเสร็จ แค่เปิดประตูออกมาก็กระโดดลงทะเลได้เลย
แตกต่างกันนิดเดียว
“เล็ก” บอกว่ามีฝรั่งหลายคนใช้เกาะพะงันเป็นที่ทำงาน
เพราะระบบอินเทอร์เน็ตของไทยดีมาก
นักธุรกิจไทยหลายคนบอกว่าเร็วกว่าสหรัฐอเมริกาอีก
5G ที่ลงทุนกันมา น่าจะเป็น “จุดขาย” ในการดึงดูดนักธุรกิจต่างชาติ
หลายคนบอกว่าเกาะพะงันคล้ายกับ “บาหลี”
ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามของธรรมชาติ
แต่ยังเป็นเกาะที่เหมาะกับคนชอบงานศิลปะ
แต่เกาะพะงันดีกว่าเกาะบาหลีตรงที่รถไม่ติด
เดินทางสะดวก
“เกาะสมุย-เกาะพะงัน-เกาะเต่า” อยู่ใกล้กันมาก
นั่งเรือแป๊บเดียวก็ถึง
เกาะสมุยเป็นเกาะใหญ่ที่มีความพร้อมสูง คล้าย ๆ กับภูเก็ต
เกาะพะงันจะติสต์-ติสต์หน่อย มีความเป็นเสรีชนสูง
ส่วนเกาะเต่า เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบดำน้ำ
ถ้าดึงศักยภาพของ 3 เกาะมาเป็นหนึ่งเดียว น่าจะมีพลังให้นักท่องเที่ยวได้พักในพื้นที่นี้นานขึ้น
ก่อนมาผมสงสัยว่าชื่อ “พะงัน” มาจากไหน
พอมาสัมผัสแล้ว ต่อมจินตนาการก็เริ่มทำงาน
“พะงัน” ถ้าตามการออกเสียงน่าจะมาจากการผสมคำระหว่าง “ผละ” กับ “งัน”
“งัน” คือ ตะลึงงันในความสวยงาม
ส่วน “ผละ” มาจากเห็นแล้วอยาก “ผละ” ออกจากงาน
ในอนาคตน่าจะมีสตาร์ตอัพต่างชาติที่ชอบชายหาด ทะเล ศิลปะ และบรรยากาศแห่งเสรีชน
มา “ผละ-งัน” ที่เกาะพะงันไม่น้อยทีเดียว