“โอกาส” จาก “ทรัมป์”

trump
โดนัลด์ ทรัมป์
คอลัมน์ : Market-think 
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

ในที่สุด “โดนัลด์ ทรัมป์” ก็กลับคืนสู่ทำเนียบขาวอีกครั้งหนึ่ง

ชนะ “คามาลา แฮร์ริส” จากพรรคเดโมแครตไปอย่างขาดลอย

ทุบโพลทุกสำนักที่ชี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะชนะกันแบบสูสี

“ทรัมป์” เคยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาแล้วสมัยหนึ่ง ก่อนที่จะพ่ายแพ้ “โจ ไบเดน” ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

ความจริง “ทรัมป์” ควรจะชนะ “ไบเดน” ไปตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

แต่โชคร้ายที่ปีสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เจอ “โควิด-19” เข้าไป

Advertisment

เรียบร้อยเลยครับ

กระแสที่นำอยู่พลิกกลับจนแพ้ “ไบเดน” แบบสูสี

Advertisment

“ทรัมป์” กลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้งตอนอายุ 78 ปี

เกมนี้ถ้า “ไบเดน” ไม่ถอย

การต่อสู้ในสนามชิงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐ จะเป็นสงครามระหว่างคนอายุ 78 กับอายุ 81

เพราะ “ไบเดน” ตอนนี้อายุ 81 แล้ว

โชคดีที่ “ไบเดน” ถอนตัว และให้ “แฮร์ริส” ลงแข่งแทน

ไม่เช่นนั้น พรรคเดโมแครตคงแพ้ยับเยินยิ่งกว่านี้

ครับ หวังว่าอายุของ “ทรัมป์” กับ “ไบเดน” คงไม่ทำให้คนในสนามการเมืองของไทยที่อายุขึ้นเลข 7 หลายคนเกิดแรงบันดาลใจ

ไม่ยอมเลิกเสียที

ชัยชนะของ “ทรัมป์” คงทำให้โลกปั่นป่วน เพราะแนวทางของเขาชัดเจนว่า “อเมริกัน เฟิรสต์”

และพร้อมพลิกเปลี่ยนทุกอย่าง ถ้าสหรัฐอเมริกาได้ประโยชน์

เขาเป็นนักธุรกิจ วิธีคิดของเขาจึงออกแนวธุรกิจชัดเจน

“โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”

ปัญหาความขัดแย้งในจุดต่าง ๆ ในโลกที่เป็นที่วิตกกังวลของแต่ละประเทศน่าจะมีทิศทางที่เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะสงคราม “รัสเซีย-ยูเครน” ที่ก่อให้เกิดวิกฤตพลังงานมายาวนานหลายปี

“ทรัมป์” เป็นนักธุรกิจ เขาคงไม่ยอมจ่ายเงินฟรี ๆ อุดหนุน “ยูเครน” สู้กับ “รัสเซีย” ไปเรื่อย ๆ

ถ้า “ทรัมป์” สามารถยุติสงครามนี้ได้เหมือนที่เขาเคยคุยไว้

บางทีวิกฤตพลังงานอาจคลี่คลาย ต้นทุนการส่งสินค้าอาจลดลง

ผมเชื่อว่าตอนนี้ทุกประเทศกำลังหา “โอกาส” จากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา

สมัยแรกของ “ทรัมป์” คนยังอ่านทางไม่ออก

แต่สมัยนี้ประเทศต่าง ๆ เริ่มรู้แล้วว่า “ทรัมป์” คิดอะไร

ตอนนี้ทุกประเทศกำลังประเมินสถานการณ์ หากสหรัฐอเมริกาทำสงครามการค้ากับจีน เช่น ขึ้นกำแพงภาษีสินค้าจีน

จีนก็คงตอบโต้สหรัฐเช่นกัน

มีหลายประเด็นที่น่าจับตามอง

เช่น จะมีการโยกย้ายการลงทุนของต่างประเทศที่ลงทุนในจีน ไปประเทศอื่นหรือไม่

หรือจีนจะย้ายฐานการผลิตมาประเทศอื่นเพื่อส่งออกไปสหรัฐและอียูหรือไม่

สินค้าจีนที่ส่งออกไปสหรัฐไม่ได้ จะทุ่มตลาดหรือระบายมาเมืองไทยหรือไม่

ไทยจะส่งออกสินค้าอะไรไปสหรัฐเพื่อทดแทนสินค้าจีนที่เจอกำแพงภาษี ฯลฯ

เป็น “คำถาม” ที่รอคอย “คำตอบ” จาก “ทรัมป์”

ตอนนี้ประเทศต่าง ๆ ในแถบอาเซียนก็จับตามองสถานการณ์หลังจากนี้

ทุกคนพยายามหา “โอกาส” จากความเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น

รัฐบาลไทยก็เช่นกัน
ว่ากันว่า พรรคเพื่อไทยค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับพรรครีพับลิกันดีกว่าพรรคเดโมแครต

ถ้าเป็นจริง บางทีเราอาจได้เห็นประธานาธิบดีทรัมป์มาเยือนเมืองไทย

จากในอดีตที่ “ไบเดน” ไปเยือนประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน

ข้ามหัวเมืองไทยตลอด

เกมสร้างสมดุลระหว่าง 2 มหาอำนาจ เป็นเรื่องจำเป็นมากในยุคนี้