ทางเดียวกัน

คอลัมน์ Market-think

โดย สรกล อดุลยานนท์

วันก่อน มีอีเมล์ส่งมาฉบับหนึ่ง เป็นหนังสือเชิญประชุมคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับกิจการเพื่อสังคม

ในเมล์นี้แนบประกาศแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดนี้

มีชื่อของผมด้วย

คนลงนามเป็นระดับ “รองนายกรัฐมนตรี”

มุมหนึ่งรู้สึกดีที่ได้รับเกียรติ

แต่อีกมุมหนึ่งก็แปลกใจในระบบราชการ

ผมเจอแบบนี้มา 2-3 ครั้งแล้ว

คือ ประกาศแต่งตั้งเลยโดยไม่เคยติดต่อทาบทามมาก่อน

ผมรีบส่งเมล์ปฏิเสธการรับตำแหน่งไปเพราะรู้ตัวว่าไม่มีความสามารถพอ

และไม่เหมาะที่จะทำงานกับระบบราชการ

เพราะเคยมีประสบการณ์เป็นคณะกรรมการร่วมกับหน่วยราชการครั้งหนึ่ง

รู้เลยว่าไม่เหมาะจริง ๆ

เวลาที่รู้ตัวว่าไม่เหมาะกับการทำงานแบบไหน

เราจะชื่นชมคนที่ทำงานแบบนั้น

เหมือนผมไม่ถนัดงานขาย

ขายโฆษณาไม่เป็น

ผมจะชื่นชมฝ่ายโฆษณาเก่ง ๆ ที่

ปิดการขายได้นิ่มนวล

ดังนั้น เมื่อรู้ตัวว่าทำงานกับระบบราชการหรือรัฐวิสาหกิจไม่ได้

ผมก็จะชื่นชม “ข้าราชการ” หรือผู้บริหารรัฐวิสาหกิจเก่ง ๆ

เพราะเขาทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้

อย่างล่าสุด มีข่าวแต่งตั้ง คุณสุเมธ ดำรงชัยธรรม เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่หรือ “ดีดี” การบินไทย

“สุเมธ” นั้นเป็นหลานของ “ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม”

เขาเป็น “นักการเงิน”

เคยทำงานที่ “ธนชาต” มายาวนาน

ก่อนจะมาเป็นผู้บริหารของ “แกรมมี่”

ลาออกมาอยู่กับน้ำมันพืชตราองุ่น

และตำแหน่งสุดท้ายที่สร้างชื่อให้กับเขาก็คือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.)

เพราะเขาสามารถกอบกู้องค์กรที่ขาดทุนต่อเนื่องพลิกฟื้นมากำไรได้

ปี 2557 กำไร 130 ล้านบาท

ปี 2558 กำไร 503 ล้านบาท

ปี 2559 กำไร 580 ล้านบาท

และปี 2560 กำไร 872 ล้านบาท

ผลงานของ “สุเมธ” ที่ ธพส. น่าประทับใจมาก

ผมเคยคุยกับผู้บริหารหลายคนที่อยู่ภาคเอกชนแล้วมาเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ

เขาต้องปรับตัวมาก

เพราะระบบขั้นตอนการตัดสินใจของรัฐวิสาหกิจซับซ้อนมาก

ที่สำคัญ พลาดไม่ได้เลย

เอกชนถ้าพลาดแบบไม่ตั้งใจ

อย่างดีก็ถูกตักเตือน

แต่ภาครัฐ ถ้าพลาดขึ้นมามีสิทธิ์ติดคุกได้

คุณสุเมธก็คงต้องปรับตัวมากทีเดียวตอนที่มาทำงานที่ ธพส.

ยิ่งเข้ามา “การบินไทย” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “แดนสนธยา” เต็มไปด้วยอิทธิพลมากมาย

เขาคงต้องปรับตัวครั้งใหญ่

ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จนะครับ

ตอนที่ประกาศชื่อ “สุเมธ” เป็นดีดีการบินไทย

มีเพื่อนผมคนหนึ่งบอกว่าการบินไทยยุคนี้กำไรแน่

เขามั่นใจในตัว “สุเมธ” มาก

ถามว่าทำไมมั่นใจนัก

เขาบอกว่าดูจาก “ประวัติ” ก็มั่นใจแล้ว

เพราะ “แอร์เอเชีย” ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจการบิน

ผู้ก่อตั้งคือ “โทนี่ เฟอร์นานเดส”

“ไทยแอร์เอเซีย” เจ้าของ คือ “โจ” ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์

ทั้งคู่เคยทำงานที่ค่ายเพลง “วอร์เนอร์ มิวสิค”

เพื่อนผมจึงสรุปว่า “การบินไทย” ยุคใหม่ต้องกำไรแน่นอน

เพราะ “สุเมธ” เคยทำ “แกรมมี่”ค่ายเพลงเหมือนกัน