เพียงคำเดียว

land
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

วันก่อน อ่านงานเขียนของ “ขจรเดช พรมรักษา” ในเฟซบุ๊กแล้วขนลุกเลยครับ

ชื่อ “ขจรเดช” อาจไม่คุ้นเคยนัก

แต่ถ้าบอกว่า “ขจรเดช” นั้น คือ “กบ บิ๊กแอส”

คนที่ฟังเพลงจะต้องรู้จัก

นอกจากเป็นมือกลองของวงบิ๊กแอสแล้ว เขายังเป็นสุดยอดนักแต่งเพลงของเมืองไทย

หลายเพลงดังของ “บอดี้สแลม” ก็เป็นผลงานของเขา

ADVERTISMENT

“กบ” เล่าว่า เขาเป็นแฟนคอลัมน์ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ของผมใน “มติชนสุดสัปดาห์”

วันหนึ่ง เขาอ่านเรื่องที่ผมเขียนถึงนักธุรกิจที่ดินคนหนึ่ง

ADVERTISMENT

นักธุรกิจคนนั้นบอกว่า “ที่ดินน่ะ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง ถ้าซื้อมาแล้ว ที่แปลงนั้นสวยเสมอ…” ผมอ่านแล้วเกิดความคิดบางอย่าง

นักธุรกิจที่ดินที่เป็นเจ้าของประโยคนี้ คือ คุณอนันต์ อัศวโภคิน แห่งแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครับ

คุณอนันต์เป็นคนที่คมมาก

เวลาที่ใครมาปรึกษาเรื่องธุรกิจ เขาจะให้ตั้งคำถามหรือให้คำปรึกษาในมุมที่นึกไม่ถึง

อย่างครั้งหนึ่ง คุณตัน ภาสกรนที มาปรึกษาเรื่องการขายที่ดิน

ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นเขาเพิ่งซื้อที่ดินที่ซอยทองหล่อ

“อารีน่าเท็น”

เป็นที่ดินแปลงใหญ่มาก

คุณตันคิดว่าน่าจะเป็นที่ดินแปลงใหญ่ระดับเกิน 10 ไร่ แปลงสุดท้ายในซอยทองหล่อ

มีคนติดต่อซื้อเยอะมาก

แต่คุณตันไม่ขาย

เพราะ “เสียดาย”

เขามาปรึกษาคุณอนันต์ว่า เวลาที่เจอที่ดินแปลงสวย ๆ ไม่เสียดายบ้างหรือ ที่ขายหรือทำเป็นคอนโดฯ บ้านจัดสรร

คุณอนันต์ตอบสั้น ๆ ว่า “ที่ดิน” สำหรับคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็เหมือนกับใบชาของคุณตัน

ความหมายคือ ที่ดิน คือ วัตถุดิบของนักพัฒนาที่ดิน

ประโยคนี้ประโยคเดียว คุณตันบรรลุธรรมทันที

เลิกยึดมั่น ถือมั่นความเป็นเจ้าของ

เช่นเดียวกับตอนที่มีคนมาปรึกษาคุณอนันต์ บ่นว่าที่ดินแปลงที่ซื้อมาแพงไป หรือเสียดายน่าจะซื้อแปลงอื่นดีกว่า

คุณอนันต์บอกสัจธรรมของธุรกิจการพัฒนาที่ดินสั้น ๆ

“ที่ดินแปลงไหนที่ซื้อแล้ว ที่ดินแปลงนั้นดีเสมอ”

เป็นการปรับมุมมองที่ดินแปลงนั้นใหม่

เราจ่ายเงินซื้อที่ดินไปแล้ว บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์

ให้มองว่าที่ดินแปลงนั้นสวย

และคิดว่าจะพัฒนาเป็นอะไรดีกว่า

เสียงบ่นไม่ช่วยอะไร

ครับ ประโยคนี้ประโยคเดียวทำให้ “กบ” เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา

เขาไม่ได้แต่งเพลงเกี่ยวกับ“ที่ดิน”

แต่ “กบ” นำมุมคิดนี้ไปเปรียบเทียบกับ “ความรัก”

“ความรักน่ะ ไม่ว่าจะจบลงอย่างไร ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว มันสวยงามเสมอ..”

“อ่ะ.. เข้าท่าเว้ย..” พอได้ความดังนั้นจึงเอาประโยคนี้ไปคุยกับตูน

แล้วสุดท้ายผมก็เขียนเป็นเพลงออกมา ชื่อเพลงว่า “ความรัก” ของ Bodyslam

…รักที่มันต้องจบ

มันก็ยังงดงาม

ฉันยังจำไว้…

อ่านเรื่องที่ “กบ” เขียนแล้วขนลุกเลยครับ

มุมหนึ่ง เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า “แรงบันดาลใจ” มาได้จากทุกเรื่องราวในชีวิต

เพียงแต่คุณหมกมุ่นกับเรื่องนั้นแค่ไหน

“กบ” หมกมุ่นกับการแต่งเพลง

แค่ประโยคเดียวเรื่องที่ดินก็กลายเป็น “ประกายไฟ” ให้เขาแต่งเพลง “ความรัก” ขึ้นมา

อีกมุมหนึ่ง ถ้าเราพลอตจุดความเชื่อมโยงจากเพลง “ความรัก”

ไปยัง “ตูน” คนร้อง

ไปหา “กบ” คนแต่ง

ไปถึงข้อเขียนของผม

และไปถึง “อนันต์ อัศวโภคิน” เจ้าของคำพูดต้นเรื่อง

แล้วสรุปสั้น ๆ ว่า เพลง “ความรัก” ของ “บอดี้สแลม”

มาจากคุณอนันต์ อัศวโภคิน

คนที่ได้ฟังคงงง 55