
คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
ตอนนี้มีข่าวดีเรื่องธุรกิจภาพยนตร์ 2 ข่าว
ข่าวแรก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติสนับสนุนกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
เรื่องแรก ถ้าลงทุนในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท จะได้คืนเงิน หรือ cash Rebate เพิ่มจากเดิม 15-20% เป็น 15-30%
ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 15%
แต่ถ้าลงทุนไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทจะได้สิทธิประโยชน์หลักอยู่ที่ 20% และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมรวมแล้วไม่เกิน 10%
เรื่องที่สอง ยกเว้นการจำกัดวงเงินคืนต่อเรื่อง
ความพยายามที่จะจูงใจให้กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศมาถ่ายทำในประเทศไทยนั้น เป็นการหวังผลเรื่อง “ซอฟท์ พาวเวอร์” เป็นหลัก
รายได้จากการลงทุน ไม่สำคัญเท่ากับรายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวและส่งออกสินค้า
เป็นรายได้ทางอ้อมที่มากกว่าทางตรง
ตอนนี้ทุกประเทศพยายามแข่งขันกันเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กองถ่ายหนังใหญ่ๆมาถ่ายทำในประเทศ
เพราะเล็งผลเลิศเหมือนกันเรื่อง “ซอฟท์ พาวเวอร์”
มติครม.เรื่องนี้จึงถือเป็นนโยบายที่ดีของรัฐบาล
อีกข่าวหนึ่ง เป็นเรื่องน่าดีใจของวงการหนังไทย
“หลานม่า” หนังของค่าย GDH เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายของภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้าชิงรางวัลออสการ์
“หลานม่า” เป็น ตัวแทนจากประเทศไทยในปีนี้
และสร้างประวัติศาสตร์สามารถเข้ารอบลึกที่สุด
ภาพยนตร์ต่างประเทศในปีนี้เข้าชิงออสการ์ 85 เรื่อง
การติด 1 ใน 15 เรื่อง ถือว่า GDH เก่งมาก
รอบต่อไปคือการคัดเลือกให้เหลือ 5 เรื่องเพื่อเข้ารอบสุดท้ายในวันประกาศผลรางวัลออสการ์
เขาจะประกาศผลรอบนี้ในวันที่ 17 มกราคมปีหน้า
และประกาศผลรอบสุดท้ายวันที่ 3 มีนาคม
คงต้องมาให้กำลังใจหนังไทยเรื่องนี้กันต่อไป
ผมเคยคุยกับผู้ใหญ่คนหนึ่งของ GDH. เพิ่งรู้ว่าหนังจากที่ส่งหนัง “หลานม่า” เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงรางวัลออสการ์
ขั้นตอนหลังจากนั้นซับซ้อนมาก
เพราะการที่จะทำให้หนังเรื่องหนึ่งในจำนวน 85 เรื่องมีคนเห็น ต้องเริ่มจากทำให้เขาอยากดูหนังของเราก่อน
ไม่ใช่นั่งเงียบๆแล้วให้เขาเห็นเอง
โลกของธุรกิจภาพยนตร์การแย่งชิงพื้นที่นั้นรุนแรงมาก
ประเด็นสำคัญจึงอยู่ที่เราจะคิดว่า “หลานม่า” เป็นหนังของ GDH หรือ หนังของประเทศไทย
เพราะถ้าได้รางวัล GDH ก็ได้ประโยชน์
ในขณะที่ประเทศไทยก็ได้ประโยชน์
เราจะตีความหรือให้น้ำหนักกับเรื่องนี้อย่างไร
รัฐควรเข้ามาช่วยเหลือขนาดไหน
ระดับที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร
เพราะเกมนี้เป็นเกมระดับโลก ไม่ใช่เกมระดับชาติ
ลองจินตนาการว่าถ้า “หลานม่า” ได้เข้าถึงรอบสุดท้ายของการชิงรางวัลออสการ์
“หลานม่า” จะกลายเป็นหนังไทยที่โกอินเตอร์อย่างแท้จริง
บางทีอาจมากกว่าหนังต่างประเทศที่มาลงทุนถ่ายทำในเมืองไทยหลายเรื่อง
คำถามจากคนในแวดวงธุรกิจภาพยนตร์ของเมืองไทยจึงเกิดขึ้น
เพราะถ้าหวังผลเรื่องการท่องเที่ยวและการขายสินค้าเหมือนที่เกาหลีใต้ทำสำเร็จมากแล้ว
“หนังไทย” กับ “หนังต่างประเทศ” ก็มี “ซอฟท์เพาเวอร์” เหมือนกัน
แล้วทำไมรัฐบาลถึงเอาใจเฉพาะกองถ่ายหนังต่างประเทศ
ไม่ดูแลธุรกิจหนังไทยบ้าง
สิทธิประโยชน์ที่กองถ่ายต่างประเทศได้รับครั้งนี้
กองถ่ายของคนไทยควรจะได้รับหรือไม่
เป็นคำถามที่น่าสนใจทีเดียว
เพราะโลกวันนี้ไร้พรมแดนจริงๆ
และโลกของหนังไม่ได้มีแค่โรงหนังเท่านั้น
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ ก็แย่งชิงเวลาจากคนดูได้ไม่น้อยกว่าโรงหนังเลย
หนังไทย ซีรีส์ไทย ใน“เน็ตฟลิกซ์” ก็ได้รับความนิยมจากทั่วโลกไม่น้อยทีเดียว
บางเรื่องเคยติดอันดับ 1 มาแล้ว
บางทีรัฐบาลอาจต้องย้อนกลับมาคิดในเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกสักครั้ง