บริษัทม้า

company
คอลัมน์ : Market-think
ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์

รู้สึกไหมครับว่า ข่าวเกี่ยวกับ “คนจีน” ตอนนี้เยอะขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ และฟอกเงิน

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรัฐบาลเอาจริงเอาจังเลยมีข่าวเยอะ

ตั้งแต่ คุณทักษิณ ชินวัตร ประกาศหลายเวทีว่าจะปราบปรามแก๊งพวกนี้อย่างจริงจัง

ตำรวจก็ขยับตัวแรงแบบไม่เคยเห็นมาก่อน

หรือเพราะขบวนการเหล่านี้ขยายตัวมากขึ้นก็เลยมีข่าวมากขึ้น

ADVERTISMENT

จนมีคนตั้งคำถามถึงมาตรการฟรีวีซ่า ที่เปิดประตูให้คนจีนเข้าเมืองไทยอย่างเสรี

ด้านหนึ่ง เป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทย

ADVERTISMENT

เพราะคนจีนเดินทางเข้ามาได้สะดวก

ยิ่งสะดวกมาก ยิ่งมาเที่ยวเมืองไทยมาก

แต่อีกด้านหนึ่ง กลุ่มอาชญากรก็ยิ่งเข้าประเทศได้ง่าย

โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีครับ

แต่เรื่องนี้อย่าเพิ่งด่วนสรุปนะครับ

แค่ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ก่อน

ผมเพิ่งคุยกับนักธุรกิจใหญ่ที่ทำมาหากินกับประเทศเพื่อนบ้านมานาน

เขาบอกว่าเมืองไทยตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว

เพราะอยู่กึ่งกลางระหว่างพม่าและกัมพูชา

สถานการณ์ในพม่ายิ่งมีการสู้รบกันระหว่างรัฐบาลเผด็จการ กับชนกลุ่มน้อย

เมืองไทยยิ่งเหนื่อย

เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต้องการเงินทุนในการสู้รบ

เงินที่หาง่ายที่สุด คือ เงินใต้ดิน หรือเงินสีเทา

ตั้งแต่ผลิตยาเสพติดขาย จนถึงปล่อยให้ทุนจีนสีเทาเข้ามาตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์

ทุกอย่างโยงใยสัมพันธ์กัน

โรงงานยาเสพติดใหญ่ที่สุดอยู่ในพื้นที่ของว้าแดง

จะแจ้งให้รัฐบาลพม่าจัดการก็ไม่ได้ เพราะเป็นเขตอิทธิพลของว้าแดง

อำนาจรัฐเข้าไม่ได้

เมืองไทยกลายเป็นทางผ่านของแก๊งยาเสพติด

และเป็นทางผ่านของขบวนการค้ามนุษย์ เอาคนไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์

อย่างล่าสุดที่ดาราจีนคนหนึ่งโดนหลอกไปที่พม่า

ลงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วนั่งรถผ่านเข้าไปชายแดนพม่า

เพราะแก๊งพนันออนไลน์กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ประจำการในพม่าริมชายแดนไทย

ที่สำคัญ ตอนนี้เมืองไทยยังเป็นแหล่งฟอกเงินของขบวนการสีเทากลุ่มนี้

มีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีท่านหนึ่งบอกว่า เงินสีเทาเหล่านี้โอนกันไม่เกิน 4 ทอด

จะกลายเป็น “เงินสะอาด” ในทันที

เคยได้ยินชื่อแอป “ทอร์นาโด แคช” ไหมครับ

มีมาหลายปี สหรัฐอเมริกาเพิ่งปิดไปเมื่อปลายปี

เพราะเงินที่เข้าแอปนี้จะโดนฟอกให้เป็นเงินคริปโตที่หาที่มาไม่ได้

นี่คือ รูปแบบหนึ่งของการฟอกเงิน

หรือที่เราเคยได้ยิน “บัญชีม้า”

เขาบอกว่า “บัญชีม้า” โอนเงินได้ครั้งละไม่เท่าไร

แต่ที่น่ากลัวกว่า คือ “บัญชีม้า”

เพราะถ้าเป็นบริษัทจะสามารถโยกเงินได้ก้อนใหญ่กว่า

สะดวกกว่า

ตอนนี้ “บัญชีม้า” ในเมืองไทยเยอะมาก

จริง ๆ รัฐบาลสามารถตรวจสอบ “บัญชีม้า” ได้ไม่ยาก

แค่เอาชื่อกรรมการบริษัทที่ตั้งใหม่ ๆ ไปตรวจเช็กสถานะ

ถ้ามีชื่อคนที่รับ “เงินหมื่น” ก้อนแรกเป็นกรรมการบริษัท

แสดงว่าบริษัทนี้มีโอกาสเป็น “บัญชีม้า” สูงมาก

เพราะถ้า “กรรมการ” คนไหนมีรายได้ต่ำขนาดต้องรับ “เงินหมื่น” จากรัฐบาล

กรรมการคนนั้นอาจโดนจ้างให้ลงชื่อเป็นกรรมการบริษัท

หวังว่ารัฐบาลคงรู้ข้อมูลแบบนี้แล้ว

และกำลังจัดการอยู่

…เพี้ยง