
คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
จนถึงวันนี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยังเมาหมัดไม่หายกับ DeepSeek สุดยอด AI จากจีน
ก่อนหน้านี้ “ทรัมป์” ประกาศนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน”
ไม่สนใจโลกร้อน ไม่สนใจความสัมพันธ์ในอดีต
สนใจอย่างเดียว คือ ผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา
เขาใช้มาตรการด้านภาษีขู่ประเทศต่าง ๆ
และประเทศที่เป็นเป้าหมายของ “ทรัมป์” ก็คือ จีน
เขาเตรียมประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ทั้งโลกจับตามองว่า “ทรัมป์” จะออกหมัดหนักหน่วงแค่ไหน
และจีนจะตั้งรับอย่างไร
แต่ไม่มีใครคิดว่าแทนที่จีนจะการ์ดแน่นเพื่อตั้งรับหมัดจาก “ทรัมป์” เขากลับชิงออกหมัดก่อน
“สี จิ้นผิง” และรัฐบาลจีนไม่ได้ออกมาเล่นตรง ๆ ด้วยมาตรการอะไรเลย
แต่อยู่ดี ๆ สตาร์ตอัพของจีนก็เปิดตัว DeepSeek
เป็นนวัตกรรม AI ที่ทำให้โลกตื่นตะลึง
เพราะในขณะที่คนทั้งโลกเชื่อว่า สหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำด้าน AI ระดับที่หาใครในโลกนี้จะสู้ได้
ChatGPT เปลี่ยนแปลงโลกครั้งใหญ่
OpenAI เนื้อหอมมาก
เช่นเดียวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ลงทุนด้าน AI
และที่สำคัญที่สุด คือ Nvidia ที่ผลิต GPU ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างโมเดล AI
สำคัญระดับที่สหรัฐอเมริกาห้ามขายให้จีน
เขาคิดว่าถ้าคุมต้นน้ำได้ จะทำให้จีนเป็นง่อยเรื่องการพัฒนา AI
แต่วันนี้พิสูจน์แล้วว่า สหรัฐอเมริกาคิดผิด
“ธนา เธียรอัจฉริยะ” ใช้คำว่า “กันดาร คือ DeepSeek”
เป็นการเล่นคำจาก “กันดาร คือ สินทรัพย์”
ความขาดแคลนทรัพยากร นำมาสู่การสร้าง “นวัตกรรม” ที่ถูกและดี
Nvidia กลายเป็น 1 ในหุ้น 7 นางฟ้าของตลาด Nasdaq
แต่ทันทีที่จีนเปิดตัว DeepSeek หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐจะร่วงหนัก
มูลค่าบริษัทหายไปในคืนเดียว 34 ล้านล้านบาท
เฉพาะ Nvidia ราคาหุ้นลดลงภายในวันเดียว 17%
คิดเป็นเงิน 18 ล้านล้านบาท
ใครจะคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่ผมคิดว่า นี่คือการตอบโต้ของจีน
เล่นกับจิตวิทยาตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา
ทำลาย “ความเชื่อมั่น” ว่าจะมีเพียงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เท่านั้นที่สามารถเล่นใน AI ได้
เพราะ 1.DeepSeek พัฒนาจาก GPU ที่มีประสิทธิภาพไม่สูง
2.ต้นทุนการฝึกอบรมเจ้า AI ของจีนเพียงแค่ 5.6 ล้านเหรียญ
ในขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ใช้ต้นทุนระดับ 100-1,000 ล้านเหรียญ ในการเทรน
3.DeepSeek ไม่ใช่ระบบปิด แต่เป็นระบบเปิดที่ให้นักพัฒนาทั้งหลายเข้ามาใช้ได้
ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดก็คือ การพัฒนา AI เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เท่านั้นที่จะเล่นเกมนี้ได้
เรื่องนี้ถือว่าเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง
จากเดิมกลุ่มบริษัทเหล่านี้เคยทำกำไรสูงมาก
GPU ของ Nvidia เป็นสินค้าที่กำไร 90%
แต่ถ้า “ระบบเปิด” ของ DeepSeek ทำให้คู่แข่งขันรายใหม่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ และไม่ต้องพึ่งพา GPU ราคาแพง ๆ
แบบนี้สั่นสะเทือนตลาดหุ้นและเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาทันที
ถ้าไม่จริง “ทรัมป์” คงออกมาถล่มแล้วตามสไตล์ที่เราคุ้นเคย
แทนที่จะออกมาให้สัมภาษณ์แบบยอมรับความจริงว่า DeepSeek คือ สัญญาณเตือนต่อการพัฒนา AI ของสหรัฐอเมริกา
ในเกมการต่อรอง ไพ่ใบนี้ของจีนคงต้องทำให้ “ทรัมป์” คิดหนักว่าจะเอาอย่างไรดี
เพราะไม่รู้ว่านอกจากที่จีนเปิดไพ่มาแล้ว
ยังมีทีเด็ดอะไรซ่อนอยู่ข้างหลังอีกหรือไม่