
คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
จำได้ว่าวันที่ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” เปิดตัว “น้าเน็ก” มาร่วมอ่านข่าวบันเทิงใน “เรื่องเล่าเช้านี้”
“น้าเน็ก” บอกว่าเขาอิจฉา “สรยุทธ” มาก เพราะรายการบันเทิงที่เขาทำต้องคิดประเด็นใหม่-มุขใหม่ทุกวัน
แต่ “สรยุทธ” ไม่ต้อง
เพราะทุกวันมี “ข่าว”
ไม่ต้องหา “ข่าว” ก็มาเอง
ผมชอบมุมนี้มาก
เพราะเป็นเรื่องจริง ข่าวเกิดขึ้นใหม่ทุกวันตลอดเวลา
รายการข่าวโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์ต้องคัดข่าวออก
เพราะปริมาณข่าวมากกว่าจำนวนหน้าหนังสือพิมพ์หรือเวลาที่ออกอากาศ
ในอดีต “สรยุทธ” เป็น “ซูเปอร์สตาร์” ของวงการข่าว
วันที่ “สรยุทธ” ตัดสินใจลาหน้าจอ ทุกช่องถือเป็น “โอกาส” ที่จะแย่งชิงเรตติ้งจากช่อง 3
แต่ถึงวันนี้ก็ไม่มีใครมีพลานุภาพเทียบเท่า “สรยุทธ”
เรตติ้งกระจัดกระจาย และไม่ได้สูงเหมือนในอดีต
จนหลายคนมองว่าคนไม่ดูข่าวโทรทัศน์แล้ว
แต่ทันทีที่เกิดเหตุการณ์เด็กและโค้ช 13 คนติดอยู่ใน “ถ้ำหลวง”
คนไทยทั้งประเทศเอาใจช่วยเด็กกลุ่มนี้
ข่าวนี้กลายเป็น “ข่าวใหญ่” แห่งปี
สถานีโทรทัศน์ทุกช่องรายงานข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง
ช่วงเวลา 10 กว่าวันได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการข่าว
เพจที่ได้รับความสนใจมากที่สุดไม่ใช่สำนักข่าวที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
แต่กลับเป็นเพจ PR Chiangrai ของประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
เพราะเป็นเพจของคนในพื้นที่ที่รู้เรื่องดี
ยอดคนดูช่วงที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายแถลงข่าวว่าพบตัวเด็ก
และโค้ช 13 คนสูงถึง 800,000 คนพร้อมกัน
และยอดการเข้าถึง 24 ล้านคน
เพจในต่างจังหวัดชนะเพจของสำนักข่าวใหญ่ ๆ ทุกแห่ง
เรื่องนี้มีนัยยะที่น่าสนใจ
แต่สำหรับวงการโทรทัศน์ ข่าวเด็กติดถ้ำครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้คนรู้ว่า “ข่าว” มีพลัง
วันที่เกิด “ข่าวใหญ่” ขึ้น กระแสความสนใจทั้งหมดจะไปอยู่ที่ “ข่าว”
การตัดสินใจยุติผังรายการปกติของ “ไทยรัฐทีวี” และเปลี่ยนมาเป็นการติดตามข่าวเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ยาวเหยียดเกือบทั้งวัน
ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์
ผลที่ปรากฏก็คือ เรตติ้งรวมของ “ไทยรัฐทีวี” วันที่ 25 มิ.ย.-1 ก.ค.ที่ผ่านมา
“ไทยรัฐทีวี” มาอันดับที่ 3 รองจากช่อง 7 และช่อง 3
เรตติ้ง 1.022
สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มทำช่อง
ในขณะที่ช่องข่าวอย่าง “เนชั่น” หรือ “ไทยพีบีเอส” เรตติ้งก็ขยับขึ้นมาทันที
นี่คือ พลานุภาพแห่ง “ข่าว”
ผมเชื่อว่าหลังจากนี้ทีวีทุกช่องจะเริ่มมีการปรับตัวเรื่อง “ข่าว”
กรณี “ถ้ำหลวง” เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก
อย่าลืมว่าทีวีดาวเทียมเคยเฟื่องฟู
ขายดิบขายดี เพราะข่าวกีฬาสี “เหลือง-แดง”
“เรื่องเล่าเช้านี้” และ “สรยุทธ” ทำรายได้ให้ช่อง 3 มโหฬาร
และวันนี้การเลือกตั้งกำลังใกล้เข้ามา
ปลดล็อกการเมือง หรือประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มตัวเมื่อไร
“ข่าว” จะกลับมาอีกครั้ง