คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
โลกแห่งการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆครับ
ผมเพิ่งเห็นโครงการใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Thammasat Gen Next Academy หรือธรรมศาสตร์ตลาดวิชา
เขาจะเปิดให้ “คนนอก” สามารถเป็นศิษย์ธรรมศาสตร์ได้
ทุกวิชาที่เรียน ถ้าสอบผ่านจะได้ประกาศนียบัตร
สะสมหน่วยกิตได้ 8 ปี
สามารถนำมาเป็นหน่วยกิตสะสมถ้าจะเข้าเรียนในหลักสูตรปริญญาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้
กลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ คือ นักเรียนที่อยากเรียนล่วงหน้าเพื่อเปิดโลกทัศน์หรือค้นหาตัวตนตัวเองก่อนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คนวัยทำงานที่อยากเพิ่มความรู้ในการทำงาน
และคนวัยเกษียณที่อยากเรียนรู้ตลอดชีวิต
วิธีการเรียนมี 3 แบบ คือ เรียนทางออนไลน์, เรียนในห้องเรียนกับนักศึกษาปกติ และเรียนแบบคอร์สระยะสั้น
ค่าหน่วยกิตมากกว่านักศึกษาปกติ 1.5 เท่า
ตอนนี้เขายังไม่เปิดนะครับ
จะเปิดประมาณเดือนมกราคมปีหน้า
โครงการนี้น่าจะมีผู้สนใจเยอะมาก เพราะคนยุคนี้ใฝ่หาความรู้ใหม่ ๆ
ตอนที่เลือกคณะในมหาวิทยาลัย ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบคณะที่เราเลือก
แต่วันนี้เมื่อทำงานแล้ว เขาจะรู้ว่าจริง ๆ เขาสนใจเรื่องอะไร
หรือรู้ว่างานที่ทำอยู่ควรจะเสริมความรู้ด้านไหน
ในมุมของ “ธรรมศาสตร์” นี่คือ การกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง
มหาวิทยาลัยเปิดที่เปิดประตูเสรีให้คนทุกชนชั้นมาเรียนได้
ก่อนหน้านี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพิ่งเปิดให้เรียนทางออนไลน์ฟรี
เป็นหลักสูตรสั้น ๆ ที่เสริม “ความรู้” สำหรับคนทำงาน
เช่น กฏหมายพื้นฐานสำหรับธุรกิจ, กฏหมายกับธุรกิจ Thailand 4.0 และภาษีกับธุรกิจ, ภาษาอังกฤษเบื้องต้นสำหรับพนักงานโรงแรม และร้านอาหาร, การสร้างชิ้นงานจากโปรแกรมสร้างภาพ 3 มิติ, การทำความเข้าใจงบการเงิน ฯลฯ
ฟังแล้วน่าสนใจไหมครับ
เปิดให้ลงทะเบียนแป๊บเดียวเต็มเลยครับ
เชื่อว่าโครงการนี้ของธรรมศาสตร์ก็คงจะเต็มอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน
ผมเห็นโครงการของ 2 มหาวิทยาลัยนี้แล้วยังสนใจเลยครับ
มี “ความรู้” หลายเรื่องที่อยากรู้
ผมเชื่อว่าทิศทางของสถาบันการศึกษาในอนาคตน่าจะออกมาแนวทางนี้
ส่วนหนึ่งเพราะโครงสร้างประชากรเปลี่ยนไป
จำนวนนิสิตนักศึกษาเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ
เพราะคนไทยมีลูกน้อยลงตั้งแต่ประมาณปี 2540
และสถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรีก็เพิ่มมากขึ้น นอกจากมหาวิทยาลัยรัฐ มหาวิทยาลัยเอกชนแล้ว
ยังมีสถาบันราชภัฏที่เปิดสอนระดับปริญญาตรีจำนวนมาก
นักเรียนน้อยลง สถาบันการศึกษามากขึ้น
ตลาดนักศึกษาเป็น “เรดโอเชี่ยน” มาหลายปีแล้ว
ถ้ายังอยู่กับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่เรียวลง ไม่ขยายตลาดใหม่
อนาคตคงไม่สดใส
อีกเหตุผลหนึ่งมาจากคนเริ่มแสวงหา “ความรู้” มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ความรู้เก่า” ล้าสมัยเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ
ตลาด “คนทำงาน” และ “คนเกษียณ” จึงเป็นตลาดใหม่ของสถาบันการศึกษา
คนกลุ่มนี้มีเงิน
และพร้อมจ่ายสำหรับ “ความรู้”
เทคโนโลยี่ทำให้การเรียนทางออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
คนไทยเรียนรู้ความรู้ใหม่ ๆ จากโลกอินเทอร์เน็ตจนการเรียนทางออนไลน์ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป
แต่ “ความรู้” ที่เป็นหลักจริง ๆ เช่น เรื่องการเงิน กฎหมาย ฯลฯ ยังไม่ค่อยมีในอินเทอร์เน็ต
โดยเฉพาะที่เป็นภาษาไทย
การเปิดเกมใหม่ของ “ธรรมศาสตร์” และ “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” น่าจะทำให้ภูมิทัศน์ของตลาดวิชาการเปลี่ยนไป
เหมือนที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมริเริ่มทำหลักสูตรสำหรับนักธุรกิจ
ตลาดของ “ความรู้” จึงไม่ใช่แค่สำหรับเด็กนักเรียนที่จบใหม่เท่านั้น
เพียงแค่เปลี่ยนมุมคิด
อนาคตที่ดูตีบตันก็สดใสขึ้นทันที
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!