คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถ้าถามว่าใครล้มเหลวที่สุด
หลายคนคงจะตอบว่า “ประชาธิปัตย์”
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ ส.ส.ใน กทม.เลย
ในภาคใต้ก็สูญเสียที่นั่งไปจำนวนมาก
จำนวน ส.ส.รวมเหลือแค่ 50 กว่าคน
แต่ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ถือว่าล้มเหลวที่สุด
เมื่อเทียบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.
องค์กรที่รับผิดชอบการเลือกตั้งครั้งนี้
ถ้าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกของประเทศ เราอาจจะให้อภัยได้
แต่ประเทศไทยมีการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง
มี กกต.หลายชุดที่รับผิดชอบจัดการเลือกตั้ง
แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะแย่เท่ากับครั้งนี้
ทั้งเรื่องประสิทธิภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือ
ทุกครั้งของการเลือกตั้ง ประมาณ 3 ทุ่มเราก็จะรู้ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ
พรรคการเมืองจะเริ่มประกาศชัยชนะหรือจับมือตั้งรัฐบาลตั้งแต่คืนนั้น
วันรุ่งขึ้น กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งได้
แต่ครั้งนี้ข้อมูลผิดพลาดและสับสน จนหมดวันก็ยังไม่รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการ
ผ่านไป 4 วันเพิ่งประกาศตัวเลข ส.ส.เขตและคะแนนดิบของแต่ละพรรค
แต่ข้อมูลที่ประกาศมาก็สับสนและถูกตั้งคำถามหลายเรื่อง
แค่ตัวเลขผู้มีสิทธิลงคะแนนที่เป็นตัวเลขง่าย ๆ และต้องนิ่งตั้งแต่ก่อนจะลงคะแนนเลือกตั้ง
แต่กลับไม่ตรงกับตัวเลขในวันที่ประกาศผลการเลือกตั้ง
และอื่น ๆ อีกมายมาย
สมัยแอนะล็อกที่ใช้มือจดคะแนน ส่งคะแนนด้วยเสียงทางโทรศัพท์ ผลการเลือกตั้งยังเร็วกว่ายุคนี้เลยครับ
ยุคนี้ 4G กำลังจะเป็น 5G แล้ว
แทนที่จะเร็วขึ้น
กลับช้ากว่าเดิมอีก
คะแนนผู้มาใช้สิทธิล่วงหน้าที่นิวซีแลนด์ก็มาไม่ทันจนกลายเป็น “บัตรเสีย”
ระบบการบริหาร การติดตามงาน การแก้ปัญหาของ กกต.เป็นอย่างไรชัดเจนที่สุดจากเรื่องนี้
ประสิทธิภาพที่ต่ำกว่ามาตรฐานกับการเลือกตั้งที่ต้องการความยุติธรรมทำให้เกิดคำถามมากมายกับ กกต.
และนำไปสู่เรื่องสำคัญนั่นคือ “ความน่าเชื่อถือ”
เวลาคนไม่เชื่อถือเรื่องความยุติธรรมแล้ว
บางทีความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุบัติเหตุหรือความไร้ประสิทธิภาพขององค์กร
แต่พอคนไม่เชื่อถือ
เขาก็จะตีความว่าเป็นเรื่องทุจริตหรือการโกง
เรื่องนี้น่ากลัวมากครับ
เพราะในการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองในการชิงอำนาจการบริหารประเทศ
“แพ้-ชนะ” เป็นเรื่องปกติธรรมดา
แต่ถ้าประชาชนหรือคนดูรู้สึกว่ากรรมการที่ทำหน้าที่ตัดสินไม่ยุติธรรม
อารมณ์ความรู้สึกจะแรงกว่าการพ่ายแพ้ธรรมดา
เพราะคนที่ใช้สิทธิ เขาจะรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ “เสียง” ของเขา
นี่จะเป็น “ระเบิดเวลา” ของการเมืองไทยในอนาคต
เรื่อง “ความน่าเชื่อถือ” สำคัญนะครับ
จะทำงานอย่างไร
จะดำรงตนอย่างไรให้คนเชื่อถือ
บทเรียนจาก กกต.ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีสำหรับคนทำงาน
วันนี้ถ้าเราทำงานอยู่แล้วมีใครเดินมาวิจารณ์เรา
“กกต.น่าดูเลย”
ผมว่าคนจะโกรธน่าดูเลย
นี่คือ เรื่องความน่าเชื่อถือ