คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ครั้งนี้ 3 วัน
กวาดหนังสือไปประมาณ 40 กว่าเล่ม
ครั้งนี้น่าจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ซื้อหนังสือเยอะมาก
อาจเป็นเพราะมีเวลาเดินซื้ออย่างละเมียดในวันธรรมดาถึง 2 วัน
ไปงานหนังสือ ถ้าอยากซื้อหนังสือแบบจริงจัง แนะนำให้ไปวันธรรมดาครับ
อย่าไปวันหยุด
เพราะวันหยุด คนจะเยอะมาก
ต้องเล็งหนังสือที่สนใจแล้วรอจังหวะหยิบมาพลิกดูหน้าปก ปกหลัง หรืออ่านผ่าน ๆ แล้วตัดสินใจ
ไม่เหมือนกับไปวันธรรมดา
ช่วงเช้าหรือบ่าย ๆ คนจะน้อย เดินดูหนังสืออย่างละเมียด พลิกอ่านไปเรื่อย ๆ
แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
ถ้าสงสัยเล่มไหนก็มีเวลาคุยกับคนขาย
ครับ เรียบร้อย 40 กว่าเล่ม
ถือว่าเป็นการทิ้งทวน “งานหนังสือ” ครั้งสุดท้ายที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เพราะเขาจะปิดปรับปรุงศูนย์สิริกิติ์ครั้งใหญ่
งานหนังสือครั้งหน้าจึงต้องไปจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
คนในแวดวงหนังสือหลายคนกังวลว่าไปที่ใหม่ คนจะเยอะเหมือนเดิมหรือเปล่า
เจ้าของสำนักพิมพ์บางคนถามคนอ่านว่าจะตามไปไหม
คำตอบส่วนใหญ่บอกว่าคิดดูก่อน หรือคงไม่ตามไป
เพราะเดินทางลำบาก
ไม่มีรถไฟใต้ดินเหมือนที่นี่
สำนักพิมพ์หลายแห่งก็หวั่นไหวทีเดียว
ยิ่งตลาดหนังสือหดตัวลง การตัดสินใจลงทุนซื้อบูทในงานหนังสือก็ต้องคิดเยอะขึ้น
แต่มีสำนักพิมพ์หลายแห่งคิดบวก
เขาเชื่อว่าคงคล้าย ๆ กับตอนที่ย้ายงานหนังสือจากกระทรวงศึกษาธิการ มาที่ศูนย์สิริกิติ์
คนก็บอกว่า “ไกล”
ถ้าย้อนอดีตไปกว่านั้นก็คงคล้าย ๆ
กับย้ายตลาดนัดที่สนามหลวงมาที่สวนจตุจักร
คนก็บอกว่าตายแน่
ในที่สุด งานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ หรือตลาดนัดที่สวนจตุจักรก็ประสบความสำเร็จ
วันนี้งานหนังสือจะย้ายไปจัดที่อิมแพค
“ความกลัว” แบบเดิมก็กลับมาอีกครั้ง
ซึ่งอาจจะถูกก็ได้
แต่ก็อาจจะผิดได้เช่นกัน
ประเด็นปัญหาเรื่อง “การเดินทาง”
ที่ไม่สะดวกเท่ากับศูนย์สิริกิติเป็น “เรื่องจริง”
แต่อย่าลืมว่า “อิมแพ็ค” หรือ “ชาเลนเจอร์” ที่เมืองทองธานีนั้นจัดงานต่าง ๆ มามากมาย
คอนเสิร์ตก็จัดกันเป็นประจำ
คนที่มาเดินงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ส่วนใหญ่ก็คงเคยไปงานที่จัดที่เมืองทองธานีมาแล้ว
งานอื่นยังไปได้
ทำไมงานหนังสือจะไม่ไป
และยังมีลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีบ้านหรือทำงานอยู่โซนแถบนี้
คนกลุ่มนี้ไปเมืองทองธานีสะดวกกว่าศูนย์สิริกิติ์
และถ้าให้เท่ ลองเปิดถึงเที่ยงคืนไปเลย
คล้าย ๆ กับงาน Big Bad Wolf ที่ขายหนังสือภาษาอังกฤษลดราคา
แต่เขาจัดแบบ 7-11 คือเปิดขาย 24 ชั่วโมง เราลองแค่เที่ยงคืนก็พอ
เริ่มขายตอนเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน
ช่วยคนอ่านให้หลบรถติด ไม่ต้องรีบมาตอนเย็นในวันธรรมดา
และเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ คนนอนดึก
จะดูคอนเสิร์ตก็มางานหนังสือก่อน
พอถึงเวลาค่อยเข้างาน
หรือมีงานมอเตอร์โชว์ที่ส่วนใหญ่จะจัดในช่วงเวลาเดียวกันอยู่แล้ว
เราก็ประสานกับบริษัทรถยนต์
อนุญาตให้ “พริตตี้” ในงานรถยนต์มาประชาสัมพันธ์รถในงานหนังสือหรือมาเดินซื้อหนังสือในงานก็ได้
ไม่ต้องเปลี่ยนชุดใหม่…เสียเวลา
แค่คิดก็สนุกแล้วครับ
คนตรึมแน่นอน…