คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์
เมื่อวันก่อน ผมจัด facebook live สัมภาษณ์ “พี่เก้ง” จิระ มะลิกุล แห่ง GDH
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
เนื้อหาหลัก เราคุยกันเรื่องหนังใหม่ของเขา
“ฉลาดเกมส์โกง”
เป็นหนังไทยที่มาแรงมาก และน่าจะเป็นเรื่องแรกในรอบปีที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การทำหนังโกงข้อสอบให้กลายเป็น “หนังแอ็กชั่น”
ตื่นเต้นระดับลืมเวลา 2 ชั่วโมงไปเลย
ในเพจของ “ฉลาดเกมส์โกง” มีการนำภาพกระป๋องใส่ป๊อปคอร์นที่เรากินในโรงหนังมาโชว์กัน
ทุกกระป๋องถูกบีบจนบิดเบี้ยวเพราะความตื่นเต้น
“พี่เก้ง”บอกว่าส่วนหนึ่งเพราะทุกคนมีประสบการณ์ร่วมในการลอกข้อสอบ
ถ้าไม่ให้เพื่อนลอกก็ลอกเพื่อน
แม้จะเป็นแค่ระดับฉุดเพื่อนจากการสอบตกไม่ใช่การโกงแบบในหนังที่มีเป้าหมายสูงถึงขั้นไปเรียนต่อเมืองนอก
“ประสบการณ์ร่วม”นี้เองทำให้เราตื่นเต้นไปกับการบอกข้อสอบในห้องสอบ
เพราะนึกถึงวันเก่า ๆ ตอนเด็ก ๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมชอบมาก ก็คือ “พี่เก้ง” เล่าว่า “ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” เคยบอกตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วว่าน่าจะทำหนังแอ็กชั่นบ้าง
แต่เขาก็ชี้แจงว่าถ้าไม่มีงบประมาณสูง ๆ หรือมีผู้กำกับคิวบู๊ระดับ “พันนา ฤทธิไกร”
“เราทำสู้เขาไม่ได้”
จนเมื่อวันที่ตัดสินใจจะทำ “ฉลาดเกมส์โกง” วิธีคิดของเขาก็เปลี่ยนไป
“พี่เก้ง” และ “วรรณ” วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ โปรดิวเซอร์ผู้อยู่เบื้องหลังของ GDH ทุกเรื่อง มองว่าหนังแอ็กชั่นไม่ต้อง “บู๊” ก็ได้
“เราจะทำหนังแอ็กชั่นด้วยบท”
ทำให้คนตื่นเต้น ลุ้น กับหนังที่ไม่มีคิวบู๊
ไม่มีระเบิดรถ
ไม่มีปืนสักกระบอก
ไม่มีเลือด
ไม่มีคนตาย
แต่”บทภาพยนตร์”จะทำให้ทุกคนลุ้นและตื่นเต้นเหมือนดูหนังแอ็กชั่นดีๆที่เคยดูกัน
ถ้าใครจำฉากตอนคนคุมสอบตามหา “ลิน” นางเอกในเรื่องที่สถานีรถไฟใต้ดินที่ซิดนีย์ได้
มีคนเขียนในเพจหนึ่งว่า “ตื่นเต้นยังกะดูเจสัน บอร์น”
ทั้งที่ไม่มีฉากบู๊อะไรเลย
…ประมาณนั้น
ผมชอบวิธีคิดของ “พี่เก้ง” และ “วรรณ” เรื่องนี้มาก
เป็นวิธีคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจและชีวิตได้
อย่าสู้ในเกมที่คนอื่นเขาทำกัน
ถ้าเราไม่ถนัด
อย่าสู้ในเกมที่รู้ว่าจะพ่ายแพ้
แต่ให้พลิกเกมใหม่
มาเล่นในเกมที่ตัวเราถนัด
เมื่อGDHมีความเชี่ยวชาญเรื่อง”บทภาพยนตร์”
บริษัทนี้พร้อมจะเสียเวลาเกิน1 ปี สำหรับการเขียน “บทภาพยนตร์” เพราะรู้ว่าเป็น “กระดูกสันหลัง” ของการทำหนัง
แค่เปลี่ยนเกม มาเล่นเกมที่ถนัด
คนเล่นก็จะกุมความได้เปรียบ
ไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จึงประสบความสำเร็จสูงมาก
เป็น”ความฉลาด”ที่ไม่”โกง”
แต่”เก๋า” ของ GDH ครับ
