โลกใหม่หลังไวรัส

Photo by Tomohiro Ohsumi/Getty Images

คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์


มีคนบอกว่าบางทีการเกิดขึ้นของไวรัสโควิด-19 คือ การจัดระเบียบโลกใหม่ของธรรมชาติส่งสัญญาณเตือนหลายครั้งแล้ว ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงสักที

คราวนี้เลยเล่นใหญ่ ส่งไวรัสมาจัดการเสียเลย การแพร่ระบาดของไวรัสครั้งนี้ไม่จำกัดแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือทวีปใดทวีปหนึ่ง แต่เป็นทั้งโลก

มีคนบอกว่าถ้ามหันภัยไวรัสครั้งนี้ยืดยาวออกไปนานเป็นปี ความเสียหายของแต่ละประเทศต่าง ๆ จะพอ ๆ กับสมัยสงครามโลก

อาจฟังแล้วเกินจริงไป แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน เพราะตอนที่มีการประเมินความเสียหายจากไวรัสในช่วงแรก เราก็ไม่คิด
ว่าจะบานปลายใหญ่โตขนาดนี้

แต่ที่แตกต่างจากสงครามโลกอย่างแน่นอนก็คือ ครั้งนี้ประเทศต่าง ๆ ไม่ได้สู้รบกันเอง แต่โลกทั้งโลกกำลังสู้กับศัตรูที่มองไม่เห็น เหมือนเป็นสงครามของมนุษยชาติสู้กับมนุษย์ต่างดาว

ผมเชื่อว่าโลกจะเปลี่ยนครั้งใหญ่หลังศึกไวรัสครั้งนี้ สิ่งแรกที่เห็น คือ ศักยภาพแท้จริงของ “จีน” ไวรัสนี้เริ่มต้นที่เมืองจีน

ตอนแรกรัฐบาลจีนรับมือไม่ไหว การแพร่ระบาดกระจายไปทั่วประเทศ จนหลายคนมองว่าครั้งนี้จีนต้องย่ำแย่อย่างหนัก

แต่พอจีนสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาตีโต้ไวรัสจนล่าถอยไม่เป็นกระบวน ช่วงนั้นเราได้เห็นศักยภาพต่าง ๆ ของจีนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างสามารถสร้างโรงพยาบาลขนาดใหญ่ภายในเวลาไม่กี่วัน

เทคโนโลยีต่าง ๆ ถูกงัดออกมาใช้อย่างเต็มที่ ระบบการสแกน การติดตามผล ระบบโดรนที่เอามาใช้ในหลายเรื่อง
หรือการวิจัยทางการแพทย์ และเมื่อไวรัสระบาดไปทั่วโลก เข้ายุโรป เข้าสหรัฐอเมริกา

จีนกลายเป็นประเทศที่มีวิชาที่ทุกประเทศต้องการ นั่นคือ วิชาปราบไวรัส จีนแสดงน้ำใจเข้าไปช่วยเหลือประเทศต่าง ๆ ส่งทั้งแพทย์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไปช่วยองค์ความรู้เรื่องไวรัสโควิด-19 ไม่มีใครสู้จีนได้

ผมเชื่อว่านี่คือ จุดเปลี่ยนสำคัญในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยิ่งสหรัฐอเมริกา ยุค โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่มีน้ำใจ ทำทุกอย่างตามใจตัวเอง

ไวรัสโควิด-19 น่าจะทำให้สหรัฐอเมริกาโดดเดี่ยวมากขึ้น

สงครามครั้งนี้ทำให้รู้ว่า “อาวุธ” ไม่ใช่ “คำตอบ” ของ “มหาอำนาจ” อีกต่อไป “ความรู้” และ “น้ำใจ” ต่างหากที่เป็น “อาวุธ” ที่สำคัญกว่า

นอกจากนั้น โครงสร้างเศรษฐกิจจะเปลี่ยนไปจากเดิม มีครั้งไหนที่ตลาดหุ้นตก น้ำมันตก และทองตก พร้อม ๆ กันบ้าง

ธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน อาจเปลี่ยนไป ธุรกิจสุขภาพอาจมาแรงยิ่งกว่าเดิม  เพราะคนรู้แล้วว่าเรื่องสุขภาพ เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

การซื้อขายออนไลน์ที่มาแรง จะยิ่งแรงกว่าเดิม การทำงานที่บ้านจะกลายเป็นเรื่องปกติ การปิดประเทศจะทำให้รู้ว่าทุกประเทศมีศักยภาพแค่ไหน สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเองหรือไม่

และที่สำคัญที่สุด ถ้าผลสรุปว่าไวรัสนี้เกิดจากการที่ “คน” กับ “สัตว์”  ใกล้กันมากขึ้นเพราะป่าถูกทำลาย เพราะโลกร้อน

การร่วมมือกันของมนุษยชาติในการกู้โลก จะเป็นภารกิจสำคัญที่ทุกประเทศต้องร่วมใจกัน

แนวคิดแบบ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ไม่สนใจโลกจะกลายเป็นความคิดที่น่ารังเกียจ ไม่ใช่แค่ชาวโลก แต่อาจรวมถึงในสหรัฐอเมริกาด้วย

โลกนี้เปลี่ยนไปแล้ว และเราอยู่ตรงจุดไหนของความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ อาจเป็นคำถามสำคัญของทุกคนหลังสงครามไวรัสยุติลง