“ลุงพล” กับสื่อทีวี

คอลัมน์ Market-think สรกล อดุลยานนท์


ตอนที่ข่าวการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เริ่มเป็นข่าวดัง พร้อมกับชื่อ “ลุงพล” บอกตามตรงว่าผมไม่ได้ติดตามข่าวนี้เลย

รู้ว่าดัง แต่ไม่รู้ว่าเป็นข่าวอะไร พักใหญ่กว่าจะเริ่มค้นข้อมูลว่า “น้องชมพู่” คือใคร ทำไมเสียชีวิต และทำไมข่าวนี้จึงดังยาวนานมาก

ตั้งคำถามเรื่องข่าวนี้จบก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ทั้งที่เราอยู่ในแวดวงข่าว ทำไมถึงไม่รู้เรื่องข่าวนี้เลย รู้ว่าเป็นข่าวดัง แต่ไม่ได้ติดตาม

คำตอบก็คือ เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์นานมากส่วนใหญ่จะติดตามข่าวทางออนไลน์ ซึ่งไม่ได้เล่นข่าว “น้องชมพู่” มากนัก

โทรทัศน์จะเล่นข่าวนี้เป็นหลัก และมีตัวละครคนหนึ่งชื่อว่า “ลุงพล” เป็นญาติของ “น้องชมพู่” จากเดิมเป็นผู้ต้องสงสัย ต้องฟันฝ่าคำครหามานานจนพิสูจน์ว่าไม่เกี่ยว

คนดูก็กลับมาสงสาร “ลุงพล” โทรทัศน์บางช่องก็โหมข่าว เล่นละเอียดทุกซอกมุม เหมือนกับการปั้นดารา

ส่วนหนึ่ง เพราะผู้บริหารข่าวดูจากเรตติ้ง ช่วงเวลาที่เล่นข่าว “ลุงพล” เมื่อไร เรตติ้งขยับสูงขึ้น เขาจึงลากข่าวช่วง “ลุงพล” ให้ยาวขึ้น และยังหามุมนำเสนอเหมือนเป็นดาราคนหนึ่ง

ในแวดวงข่าว เรื่องน้องชมพู่กับลุงพล ถือเป็นกรณีศึกษาว่าทำแบบนี้ “เกินความเป็นข่าว” หรือเปล่า เรื่องนี้ก็ถกเถียงกันไป

แต่ในมุมการตลาด กรณีการปั้น “ลุงพล” ให้กลายเป็น “คนดัง” น่าสนใจมาก ถามว่า “ลุงพล” ดังจากสื่อไหน …ทีวีครับ

การลากข่าวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ผิด-ถูก ก็ว่ากันไป แต่ “ลุงพล” ดังจริง ดังขนาด “จินตหรา พูลลาภ” เชิญไปร้องเพลงคู่
ถ่ายโฆษณา เดินแฟชั่น ไปไหนมีคนกรี๊ด

ใครที่บอกว่า “ทีวีตายแล้ว” อาจต้องคิดใหม่ พลังของทีวียังมีอยู่ เพียงแต่กลุ่มคนอาจไม่ใช่ดูสดใสเซ็กซี่เหมือนในโลกออนไลน์ เป็นคนละกลุ่มกัน แต่กลุ่มนี้ก็มี “กำลังซื้อ” เหมือนกัน

“ลุงพล” ก็เหมือนกับ “BNK48-ไทบ้าน เดอะซี่รี่ส์” ที่ดังเฉพาะกลุ่ม ตอนที่ “BNK48” จับมือกับกลุ่ม “ไทบ้าน เดอะ ซีรี่ส์” ทำหนัง ดาราบางคนของ “ไทบ้าน” ไม่รู้จัก “BNK48”

เช่นเดียวกับน้อง ๆ “BNK48” ไม่รู้จัก หนังชุด “ไทบ้าน” เพราะตลาดเป็นคนละกลุ่ม แต่จะบอกว่า “BNK48” ไม่ดังก็
ไม่ได้ เช่นเดียวกับน้อง ๆ กลุ่ม “ไทบ้าน” เขาก็ดังในกลุ่มของเขา โดยเฉพาะในภาคอีสาน นี่คือ พลังของคนแต่ละกลุ่ม

เช่นเดียวกับ “สื่อทีวี” ที่คนดู อาจจะเป็นคนละกลุ่มกับคนดู “ออนไลน์” แต่ “ทีวี” ก็มีพลังเหมือนกัน เหมือนกับยาสีฟันยี่ห้อหนึ่งที่ยอดขายเติบโตมโหฬารในช่วงแรก ๆ เขาไม่ได้ใช้สื่ออื่นเลย ใช้แต่การโฆษณาทีวี

ผมว่าเราคงต้องประเมิน “พลังแฝง” ของ “สื่อเก่า” ให้ดี “สื่อเก่า” ยังมีพลังอยู่ เพียงแต่กลุ่มเป้าหมายที่สื่อนี้ส่งพลังไปถึงนั้นแตกต่างจากในอดีต

นี่คือ ข้อสรุปที่ผมได้จากข่าว “ลุงพล” อาจมีบางคนยังไม่เชื่อแต่คงต้องขอร้องข่าวทีวีช่อง ต่าง ๆ ว่าไม่ต้องพิสูจน์อีกนะครับ

ในฐานะคนที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชน แค่ข่าว “น้องชมพู่” ข่าวเดียวก็อายแล้วครับ