“ควร” หรือ “ไม่ควร”

คอลัมน์ Market-Think

โดย สรกล อดุลยานนท์

การขาย “เบียร์สด” ในร้าน 7-11

ถือเป็นการเล่นกับ “ไฟ” อีกครั้งหนึ่งของยักษ์ใหญ่ร้านสะดวกซื้อรายนี้

ผมเชื่อว่าผู้บริหารก็รู้ว่าถ้ามีภาพการขายเบียร์สดในร้านออกไปสู่โซเชียลมีเดียเมื่อไร

กระแสถล่มจะตามมาทันที

แต่เขาก็ทำ

ส่วนหนึ่ง เพราะคิดในมุมของกฎหมายเป็นหลัก ถ้าไม่ผิดกฏหมายก็ทำได้

“เบียร์” ไม่ใช่ “ยาบ้า” หรือยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเพียงสินค้าควบคุม

ตอนนี้ก็ขายเป็นขวด ขายเป็นกระป๋อง ในตู้แช่อยู่แล้ว

และมีการควบคุมไม่ขายให้เด็กที่อายุไม่ถึง

การขาย “เบียร์สด” กลางร้านก็ไม่น่าจะเป็นไร

ซึ่งผู้บริหารของ 7-11 คงศึกษาเรื่องกฎหมายเป็นอย่างดี

ไม่เช่นนั้นเมื่อทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขไปตรวจสอบจึงไม่สามารถเอาผิดได้

ยกเว้นเรื่องโลโก้สินค้าที่โดดเด่นเป็นสง่าตรงตู้กดเบียร์สด

ซึ่งอาจผิดกฎหมายเรื่องการโฆษณาเบียร์

เอาผ้าคลุมปั๊บก็ทำอะไรไม่ได้

เหมือนกับที่ใช้ตู้ทึบสำหรับขายบุหรี่

เหตุผลอีกมุมหนึ่งที่ทำให้ 7-11 ขายเบียร์สด ก็คือ เรื่องธุรกิจ

ตู้กดเบียร์สดโดดเด่นขนาดนั้น

ราคาค่าพื้นที่ที่ต้องจ่าย 7-11 คงสูงทีเดียว

อีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องการเติบโตของ “เบียร์สด” หรือ “คราฟต์เบียร์” ของรายเล็ก ๆ ในเมืองไทย

กระแสตอนนี้แรงมาก

ล่าสุดได้ข่าวว่า 7-11 ก็สั่ง “คราฟต์เบียร์” เข้าขายในร้านแล้ว

การที่มีตู้กด “เบียร์สด” อยู่กลางร้าน ในมุมของค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ก็คือ การสกัดดาวรุ่ง “คราฟต์เบียร์”

เพราะ “เบียร์สด” ที่กดจากตู้แช่ คนดื่มน่าจะรู้สึกว่า “สด” กว่า

แต่ในมุมของ 7-11 คือการเพิ่มยอดขายรับกับกระแสความนิยมเบียร์สด

ในเชิงธุรกิจ ผมยังไม่ค่อยแน่ใจนัก

ยิ่งเห็น “ภาชนะ” ที่ใส่ “เบียร์สด” เป็น “แก้วใส ๆ”

คำถามก็คือจะมีกี่คนที่จะถือแก้วเบียร์สดเดินซดตามถนนเหมือนเครื่องดื่มอื่น ๆ

ขนาดเบียร์กระป๋อง เรายังไม่ค่อยเห็นคนเดินกินเลย ส่วนใหญ่จะซื้อไปกินที่บ้านหรือที่ทำงาน

ถ้าเป็นแก้วทึบยังมีโอกาสมากกว่า

หรือถ้าซื้อไปกินที่บ้าน ภาชนะที่เป็นแก้วแบบนี้ก็คงไม่เหมาะเท่าไร

นั่นคือ มุมด้านธุรกิจ

ผมคิดว่าการตัดสินขายเบียร์สดผ่านตู้กดของผู้บริหาร 7-11 คงคำนึงถึงเรื่อง

“ธุรกิจ” และ “กฎหมาย” เป็นหลัก

ถ้าไม่ผิดกฎหมาย และเป็นสินค้าที่น่าจะขายดี เขาก็ทำ

แต่ในเรื่อง “ควร” หรือ “ไม่ควร” ผมไม่รู้ว่าผู้บริหารของ 7-11 คำนึงหรือไม่

เรื่อง “ควร” หรือ “ไม่ควร” เป็นเรื่อง “นามธรรม”

เป็นเรื่องทางใจคนในสังคม

“ชั่ง-ตวง-วัด” ยาก

แต่กระแสที่เกิดขึ้นในวันนี้คงพอจะบอกได้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ส่งผล “บวก” หรือ “ลบ” กับ 7-11

ต้องยอมรับว่าร้าน 7-11 ผ่านร้อนผ่านหนาวในเรื่องแบบนี้มาตลอด

ถือเป็นแบรนด์ที่โดนโจมตีอย่างหนักในหลายเรื่อง

แต่ยอดขายก็ยังดี กำไรก็สูง

ราคาหุ้นก็ขยับขึ้นตลอด

ตราบใดที่ยังไม่มี “คู่แข่ง” ที่ใกล้เคียง

กัน ผมเชื่อว่าธุรกิจของ 7-11 คงไม่สะเทือนจากกระแสโจมตีแบบนี้

แต่ถ้าวันใดที่มี “คู่แข่ง” ที่สูสี

เป็น “ทางเลือก” ของผู้บริโภค

เรื่อง “นามธรรม” แบบ “ควร” หรือ “ไม่ควร”

น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้บริหาร 7-11 ต้องคำนึงให้มาก