หนุ่มเมืองจันท์: ทีมหา “โอกาส”

Market-think
สรกล อดุลยานนท์

จำได้ว่าเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว รายการ “สุทธิชัย หยุ่น LIVE” สัมภาษณ์เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศ

ตอนนั้นเขาคุยกันเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในแต่ละประเทศ

ประเทศไหนติดเชื้อกันเท่าไร มีแผนอย่างไรกันบ้าง

ผมสะดุดตรงที่ทูตไทยประจำเวียดนามเล่าเรื่องการรับมือของรัฐบาลเวียดนาม

ตอนนั้นการควบคุมโรคของเวียดนามกับไทยนั้นสูสีกัน

ก่อนที่เวียดนามจะชนะไทยไปหวุดหวิด

ไทยได้อันดับที่ 4 ของโลก

เวียดนามอันดับที่ 2

ในวันนั้นนอกเหนือจากแผนรับมือกับไวรัสโควิด-19 แล้ว ท่านทูตไทยประจำเวียดนามบอกด้วยว่ารัฐบาลเวียดนามเขาตั้งทีมขึ้นมาทีมหนึ่ง

เป็นทีมแสวงหา “โอกาส”

ทีมนี้ไม่ต้องสนใจ “ปัญหา”

วางแผนเลยว่าจะทำอะไรบ้างหลังวิกฤติโควิด-19 เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด

ต้องยอมรับว่าท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ประเทศที่โดดเด่นที่สุดในอาเซียน คือเวียดนาม

ประเทศไทยได้อย่าง เสียอย่าง

คือ ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดีมาก แต่เศรษฐกิจพังพินาศ

จีดีพี ติดลบและแย่ที่สุดในอาเซียน

ในขณะที่เวียดนามคุมการแพร่เชื้อได้ดีกว่าไทย เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน

และจีดีพีก็สูงที่สุดในอาเซียนด้วย

บริษัทที่ย้ายการผลิตหนีสงครามการค้า “จีน-สหรัฐอเมริกา” และปรับแผนห่วงโซ่การผลิตหลังจากเจอปัญหาโควิด-19 ที่จีน

ส่วนใหญ่เบนเข็มไปที่เวียดนาม

ไม่เลือก “ไทย” ที่อุตส่าห์ลงทุน “อีอีซี” รอไว้

ล่าสุด แอลจีก็ไปลงทุนเพิ่มอีก 750 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะตั้งคำถามในที่ประชุม ครม.ว่าทำไมการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจึงต่ำกว่าเวียดนาม ทั้งที่ไทยได้เปรียบหรือเหนือกว่าหลายด้าน

เป็นคำถามที่ถูกต้อง

แต่ควรถามมานานแล้ว

และอย่าลืมว่าคนเป็น “ผู้นำ” ต้องถามตัวเองด้วย

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เพิ่งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เป็นมาแล้ว 6 ปีกว่า

แพ้เวียดนามมาตลอด

คำถามที่ถูกต้องอาจต้องเป็น…ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำไมการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยจึงต่ำกว่าเวียดนาม

ผมไม่รู้ว่าวันนี้รัฐบาลไทยได้คิดวางแผนเรื่อง “โอกาส” หลังโควิด-19 บ้างไหม

เราต้องคิดเรื่องการ “Take off Thailand” ได้แล้ว

โดยเฉพาะเรื่อง “การท่องเที่ยว”

ทุกประเทศกำลังแข่งกันในเรื่อง “วัคซีน”

เพราะประเทศไหนปลอดเชื้อก่อนได้เปรียบ

วันก่อน ผมเห็นเพจของนักเขียน นักเดินทางชื่อดังคนหนึ่ง เขียน advertorial เกี่ยวกับความประทับใจเมืองโตเกียว

และให้คนอ่านส่งรูปที่ถ่ายที่โตเกียวมา

ผู้โชคดีจะได้รางวัล

ครับ ญี่ปุ่นเขาเริ่มบุกเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ทั้งที่สถานการณ์โควิด-19 ของเขาแย่กว่าเมืองไทยอีก

ส่วนหนึ่ง เพราะญี่ปุ่นจะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในกลางปีนี้ หลังจากเลื่อนมาจากปีที่แล้ว

แต่อีกส่วนหนึ่ง คือ เขาต้องการกระตุ้นความทรงจำของคนไทยที่ชอบญี่ปุ่น

เป็นยุทธการยึดพื้นที่ในใจนักท่องเที่ยวก่อนใคร

เริ่มก่อนได้เปรียบ

ผมไม่รู้ว่าตอนนี้รัฐบาลไทยคิดเรื่องนี้แค่ไหน คิดล่วงหน้าไว้แล้วหรือยัง

เพราะยุทธศาสตร์เรื่องการท่องเที่ยวต้องสอดรับกับยุทธศาสตร์การจัดหาวัคซีนด้วย

“คุณหมอ” ก็ต้องฟัง

แต่อย่าลืมฟังคนในธุรกิจการท่องเที่ยวด้วย

บางทีต้องคิดเรื่องการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเหมือนกับญี่ปุ่น

ต้องยอมรับว่าคนไทยชอบญี่ปุ่น

เหมือนคนจีนชอบเมืองไทย

ก่อนโควิด-19 คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นเยอะมาก ไปที่ไหนก็เจอแต่คนไทยด้วยกัน

ตอนนี้คนที่ยังมีเงินแทบทุกคนมีอาการ “หิวญี่ปุ่น” อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น

คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่รีบฉีดวัคซีน รอให้คนอื่นฉีดก่อน เพราะกลัวผลข้างเคียง

แต่พอถามว่าถ้าญี่ปุ่นเปิดประเทศ แต่มีเงื่อนไขว่าคนไปเที่ยวต้องฉีดวัคซีน

“จะฉีดไหม”

เชื่อไหมครับ ตอบว่า “ฉีด” ทุกคนเลย