คิดเชิงรุก

Market-think
สรกล อดุลยานนท์

หลังจากทุกประเทศในโลกเริ่มฉีด “วัคซีน” ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย
เราเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของเศรษฐกิจโลก

ประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูง ๆ อย่างในแถบยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา พอเริ่มฉีดวัคซีนมากขึ้นเรื่อย ๆ อัตราการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

เป็นการวิจัยในสนามจริงว่าถ้าคนในโลกนี้ฉีดวัคซีนกันมากพอ

“โควิด-19” ก็ไม่น่ากลัวอีกต่อไป

ผมเชื่อว่าตอนนี้ภาคธุรกิจเริ่มคิดในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากตั้งรับมานาน

เพราะทันทีที่ทุกประเทศคลายล็อคให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ

เดินทางไปมาหาสู่กันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ฟันเฟืองเศรษฐกิจที่หยุดชะงักก็จะขับเคลื่อนอีกครั้ง

เกมนี้ใครพร้อมก่อนได้เปรียบ

ผมเชื่อว่านับจากนี้ไปวัคซีนที่แต่ละประเทศคิดค้นจะเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ดีมานด์-ซัพพลาย” จะเริ่มใกล้กันขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ใช่ห่างกันจนวัคซีนกลายเป็นของหายากเหมือนในวันนี้

ในเมืองไทย เราเริ่มฉีดวัคซีนแล้วแม้จำนวนยังน้อย แต่ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะเดียวกันตัวเลขคนติดเชื้อโควิด-19 ก็ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงหลักสิบ

โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งทั้ง “ธนบุรี-รามคำแหง-กรุงเทพ-เกษมราษฎร์” เตรียมนำเข้าวัคซีนตามข่าวที่ “ประชาชาติธุรกิจ” ลงไป

ผมเพิ่งคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลในกลุ่มนี้แห่งหนึ่ง เขาบอกว่าคุยกันในกลุ่มผู้บริหารแล้วว่าครั้งนี้จะไม่คิดทำกำไรจากการฉีดวัคซีน

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ

ยิ่งการฉีดวัคซีนให้คนไทยเร็วมากเท่าไรก็จะช่วยเศรษฐกิจของประเทศมากเท่านั้น

โรงแรมหลายแห่งก็เริ่มคิดแล้วว่าจะฉีดวัคซีนให้พนักงานของโรงแรมทุกคน

เพราะถ้าทำให้โรงแรมของตัวเองปลอดจากโควิด-19 เร็วกว่าคู่แข่งก็จะถือเป็น “จุดขาย” ที่แตกต่างจากที่อื่น

ถือเป็นโชคดีที่การท่องเที่ยวของไทยอยู่ในจุดที่ได้เปรียบประเทศอื่นมาก

เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งจากยุโรปและจีนอยากมาเที่ยวในระดับ “หิวเมืองไทย” แล้ว

อัตราการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่ำที่สุดอันดับ 4 ของโลกก็ถือเป็น “จุดขาย” เรื่องหนึ่ง

คิดแบบใจเขาใจเรา ถ้าจะเที่ยวทั้งทีแม้เราจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม แต่หากเลือกได้ เราคงเลือกประเทศที่สะอาดจากโควิด-19 ที่สุด

แม้ใครจะคิดถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือสหรัฐอเมริกามากแค่ไหน

แต่ถ้าให้ไปเที่ยว เราคงรอสักปลายปีหรือต้นปีหน้า

เอาให้ชัด ๆ ก่อนว่าประเทศที่จะไปเที่ยวสะอาดปลอดจากโควิด-19 แล้ว

ผมเชื่อว่าถ้า “วัคซีน” เริ่มทำงาน

คนฉีดเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

ในแง่จิตวิทยาคนจะมีความหวัง เริ่มอยากจับจ่ายใช้สอย

แฮ่ม…ถ้าเงินยังเหลือในกระเป๋า

และทันทีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเมื่อไร เงินจะเริ่มกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ

เงินจากนักท่องเที่ยวจะเริ่มหมุนกงล้อเศรษฐกิจไทย

ในช่วงนี้น่าถือเป็นโอกาสที่ที่รัฐบาลคิดเรื่องการปรับโครงสร้างการท่องเที่ยวไทย

แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติในช่วง 1 ปีเศษสวยขึ้นกว่าเดิมมาก

“โควิด” ทำให้หาดทราย ท้องทะเลได้พักผ่อน

ถ้ารัฐบาลจะคิดใหม่ ไม่ติดกรอบเดิม

ลองจินตนาการว่าอยากให้แหล่งท่องเที่ยวไหนมีนักท่องเที่ยวแบบไหน

แล้ววางแผนงาน กำหนดกฏกติกามารยาทได้เลย

ไม่อยากให้กลุ่มไหนเข้ามาก็กำหนดกติกาให้เข้ม ๆ

จังหวะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

ไหน ๆ ก็พินาศแล้ว ก็จัดระเบียบใหม่เสียเลย

แปร “วิกฤต” ให้เป็น “โอกาส”