สรกล อดุลยานนท์ : ได้-เสีย “บอลยูโร”

บทความ โดย หนุ่มเมืองจันท์
Market-think
สรกล อดุลยานนท์

 

ฟุตบอลยูโรครั้งนี้มีกรณีศึกษาเรื่อง “โฆษณา” ที่น่าสนใจหลายเรื่องเลยครับ

อย่างเช่นการตัดสินใจถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรในเมืองไทย

ตอนแรกทุกคนแทบหมดหวังไปแล้วว่าจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์

เพราะสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ไม่มีใครกล้าลงทุน

“ทีวีพูล” ก็ยังถอย

เหลือเวลาอีกแค่ 2-3 วัน จะเริ่มแข่งแล้วก็ยังไม่มีวี่แวว

มีการกีฬาแห่งประเทศไทยเริ่มขยับ แต่บอกว่ากว่าจะถ่ายทอดสดได้คงเป็นรอบ 2

รอบแรกไม่ทัน

แค่วันเดียว “อัศวิน” ที่ไม่ใช่ผู้ว่าฯ กทม.ก็ขี่ม้าขาวออกมา

เขาชื่อ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นพี่ชายของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

และคุณพ่อของ “พงศ์กวิน” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

งานนี้จึงมีเรื่อง “การเมือง” เข้ามาเกี่ยวพันด้วย

คนออกโรงคือ “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่กำลังถูกเขย่าเก้าอี้

“อนุชา” อยู่ในกลุ่มสามมิตรของ “สุริยะ” และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน”

เขาดึง “โกมล” มาช่วยจ่ายเงินและรับผิดชอบเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์

ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยรัฐบาลใช้บอลยูโรดึงความสนใจ ลดกระแสการเมืองเรื่องวัคซีนที่กำลังถล่มรัฐบาลอยู่ในเวลานี้

ส่วนหนึ่งเพื่อส่งสัญญาณถึง ส.ส.พลังประชารัฐว่า “กลุ่มสามมิตร” มีแสงสว่างในตัวเองนะ

ควักสด ๆ เป็นหลักร้อยล้านแค่วันเดียว

“โกมล” เป็นเจ้าของรองเท้า “แอโร่ซอฟท์”

ตัวเลขการซื้อลิขสิทธิ์ที่ประกาศมาคือประมาณ 300 ล้านบาท

แต่คนในแวดวงโทรทัศน์บอกว่าราคาช่วงท้าย ๆ อยู่ที่ 100 กว่าล้านบาท

ไม่เป็นไรครับ ราคาเท่าไรไม่สำคัญ

สำคัญที่คนไทยได้ดูถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร

และหนังโฆษณา “เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟท์” ที่เนรมิตได้ภายในเวลา 2 วัน

ที่น่าสนใจก็คือ แบรนด์ “แอโร่ซอฟท์” กลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศภายในแค่เวลาไม่กี่วัน

คอบอลต่างรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณ “แอโร่ซอฟท์”

มีการพูดขำ ๆ ว่าดูบอลจบ พรุ่งนี้จะไปซื้อรองเท้ายี่ห้อนี้สักคู่

“แอโร่ซอฟท์” กลายเป็น “แบรนด์เลิฟ” ในชั่วพริบตา

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นกรณีศึกษาของสินค้าต่าง ๆ

นั่นคือ การที่ “โรนัลโด้” ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกส ขยับขวด “โคคา-โคลา” ออกไปให้พ้นจากตัวเขาในการแถลงข่าว

ไม่ให้ภาพที่ออกสื่อมี “โคคา-โคลา” สปอนเซอร์หลักของบอลยูโรครั้งนี้อยู่ในเฟรมด้วย

หนำซ้ำยังยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม และบอกทุกคนว่าน้ำเปล่าดีกว่า

“โรนัลโด้” อาจคิดเพียงว่าเขาเป็นคนดูแลสุขภาพ ไม่ดื่มน้ำอัดลม

เคยแสดงความไม่พอใจที่ลูกชายชอบดื่มน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยว

การขยับ “โคคา-โคลา” ออกก็เพียงไม่ให้ภาพเขาอยู่ในเฟรมเดียวกับสิ่งที่เขาไม่ชอบ

แต่ผลกระทบต่อภาพลักษณ์สินค้ารุนแรงมาก

วันรุ่งขึ้น ราคาหุ้น “โคคา-โคลา” ลดลงเกือบ 1 เหรียญ คิดเป็นมูลค่า 4,000 ล้านเหรียญ

หรือ 120,000 ล้านบาท

อีกวันหนึ่ง “พอล ป๊อกบา” นักเตะดังชาวฝรั่งเศส ก็หยิบ “ไฮเนเก้น” สปอนเซอร์หลักที่อยู่บนโต๊ะลงไป

ไม่อยากให้แบรนด์ของเบียร์ชื่อดังมาอยู่ในเฟรม

เพราะเขาเป็นมุสลิม

ทั้งที่ “ไฮเนเก้น” ที่วางบนโต๊ะเป็นรุ่นแอลกอฮอล์ 0%

ประเด็นนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่มีการถกเถียงกันในอนาคต

ระหว่างสินค้าที่เป็นสปอนเซอร์กับผู้จัดการแข่งขัน

เพราะเมื่อจ่ายเงินก้อนใหญ่สนับสนุนการแข่งขัน เขาก็อยากได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

การมีสินค้าวางอยู่บนโต๊ะแถลงข่าวของ “ซูเปอร์สตาร์” ก็คือการโฆษณาอย่างหนึ่งที่น่าจะมีการระบุในสัญญา

แต่นักฟุตบอลที่มานั่งแถลงข่าว เขาไม่ได้ผลประโยชน์ด้วย

ที่มานั่งแถลงข่าวนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขในการเข้าร่วมแข่งขัน

ถือเป็นการประชาสัมพันธ์การแข่งขันรูปแบบหนึ่ง

ไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์สินค้า

และเงื่อนไขนั้นไม่ได้ผูกมัดว่าต้องมีสินค้าอะไรวางอยู่บนโต๊ะและอยู่ในเฟรมที่มีเขาอยู่ด้วย

ที่สำคัญการที่นักเตะขยับสินค้าออกจากเฟรมระหว่างการแถลงข่าว ไม่ใช่เพียงแค่สินค้านั้นไม่ได้โฆษณาเท่านั้น

แต่ยังมีความหมายถึงการปฏิเสธสินค้านั้นของ “ซูเปอร์สตาร์” ที่มีคนติดตามจำนวนมากด้วย

ภาพลักษณ์ของสินค้าจึงไม่ใช่แค่ลดจาก “บวก” เหลือ 0

แต่ยัง “ติดลบ” อีกด้วย

ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่าสินค้าต่าง ๆ จะแก้เกมอย่างไร

ต่อไปจะมีการระบุในสัญญาชัดเจนไปเลย

หรือเลิกเอาสินค้าไปวางบนโต๊ะ

แค่มีโลโก้อยู่ข้างหลังการแถลงข่าวก็พอ

น่าสนใจนะครับ

บอลยูโรเพิ่งผ่านไปไม่กี่แมตช์ แต่ถ้าถามว่าใครได้ใครเสีย

ตอบได้เลยว่า “แอโร่ซอฟท์” ได้


ส่วนคนที่เสีย คือ “โคคา-โคลา” และ “ไฮเนเก้น”