ไม่มีสงกรานต์ปี 2563

คอลัมน์คนเดินตรอก
ดร.ว่ีรพงษ์ รามางกูร

 

ปกติวันสงกรานต์ วันเถลิงศกใหม่ หรือวันสังขารล่องของชาวเหนือ ชาวลาว และชาวมอญ พม่า ไทยใหญ่ไทยสิบสองปันนา เป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรเข้าสู่ราศีเมษ ตามปฏิทินนิรายนะ และปฏิทินสุริยยาตร์ เคยเป็นวันที่กลางวันและกลางคืนมีเวลา 12 ชั่วโมงเท่ากันเมื่อประมาณ 1,500 ปีก่อน แต่ขณะนี้วันที่เวลากลางวันและกลางคืนเท่ากันจะตกอยู่ราว ๆ วันที่ 21-22 มีนาคม ปฏิทินโหรสากลหรือสายนะ จึงถือเอาวันที่ 21 หรือ 22 มีนาคม เป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรเข้าราศีเมษ

ราศีเมษของฝรั่งจึงไม่ตรงกับราศีเมษของไทย พม่าและอินเดียเขาจึงไม่เฉลิมฉลองวันสงกรานต์เหมือนอย่างของเรา แต่ถือเอาวันที่ 1 มกราคมเป็นเวลาที่พระอาทิตย์โคจรอยู่ที่ราศีธนูตามปฏิทินของเรา เนื่องจากโลกโคจรรอบดวงอาทติย์เป็นวงรี และโลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ราว ๆ ปลายเดือนธันวาคม และเริ่มโคจรกลับเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ จึงได้ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่เฉลิมฉลองต่อจากวันคริสต์มาส อันเป็นวันประสูติของพระเยซูคริสต์เจ้า

ปีนี้เป็นปีที่ทางการของหลายประเทศ เช่น ไทย พม่า ลาว เขมร ประกาศงดการเฉลิมฉลองงานตรุษสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ ซึ่งปกติสมัยที่เราเป็นเด็กก็จะสนุกสนาน ออกไปเล่นรดน้ำสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งเตรียมดอกไม้ธูปเทียน ขันหรือโถใส่น้ำอบไทยพร้อมกับเสื้อผ้าใหม่ไปรดน้ำขอพรผู้ใหญ่

การเฉลิมฉลองสงกรานต์นั้น ทางพม่าเขาเฉลิมฉลองเป็นเวลา 7 วัน ก่อนวันสงกรานต์ 3 วัน หลังวันสงกรานต์ 3 วัน รวมเป็น 7 วัน ของไทย ของลาว ของพม่า และไทยใหญ่สิบสองปันนาฉลองเพียง 3 วัน

ดูภาพจากโทรทัศน์วันสงกรานต์ 13-14-15 เมษายน แทนที่จะเห็นถนนหนทางคลาคล่ำไปด้วยประชาชน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศออกมาสาดน้ำเล่นกัน ทั้งที่ถนนข้าวสาร ถนนสีลม ในกรุงเทพฯ ถนนข้าวเหนียว ถนนข้าวจี่ ที่ขอนแก่นและอุดรฯ ที่ถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งมีทั้งที่เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และนครศรีธรรมราช กลับเห็นถนนหนทางว่างเปล่า นาน ๆ จะมีรถผ่านมาสักคัน จราจรไม่ติดขัดเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มา

สำหรับคนไทยเชื้อสายมอญแล้ว งานสงกรานต์เถลิงศกใหม่ถือว่าเป็นงานสำคัญอย่างยิ่ง จะมีการนัดญาติพี่น้องลูกหลานมาชุมนุมกันที่บ้านปู่ย่าตาทวด สุดแท้ว่าจะเหลือใครที่อาวุโสที่สุด เจ้าของบ้านที่เป็นเจ้าภาพจะเตรียมกวนกะละแมไว้ต้อนรับ พูดถึงกะละแมขนมหวานของมอญ การกวนต้องใช้แรงงานมาก เริ่มตั้งแต่ต้มปลายข้าวในกระทะใบบัว มีผู้ชาย 2-3 คนยืนรอบโดยใช้ไม้พายด้ามยาวกวน ใช้ไฟอ่อน ๆ และค่อย ๆ กวน
เติมกะทิและน้ำตาลมะพร้าวให้ได้ความมัน หอม และหวาน กวนไปเรื่อย ๆ จากสีขาวจนกลายเป็นสีน้ำตาลแก่ เนื้อข้นเหนียวได้ที่ก็เป็นอันเสร็จ แล้วพวกสาว ๆ ก็จะตักขึ้นมาห่อให้ได้ขนาดพอดีคำด้วยใบตองแห้ง กลัดด้วยไม้กลัดทางมะพร้าว เตรียมไว้ก่อนวันสงกรานต์

เมื่อรดน้ำผู้ใหญ่หรือกรณีของชาวมอญที่เป็นการอาบน้ำให้ท่านทั้งตัวเลย ให้ท่านผลัดเปลี่ยนผ้าชุดใหม่งดงามออกมานั่งให้ศีลให้พรในลานบ้าน แล้วก็รับประทานข้าวแช่ ซึ่งเป็นอาหารของมอญที่นิยมทานกันในวันสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ เครื่องที่รับประทานกับข้าวแช่ที่ขาดมิได้ ก็คือ กะปิคั่ว รับประทานกับกระชาย ต้นหอม แตงกวา ผัดหัวไชเท้าหั่นฝอย พริกหยวกยัดไส้ อาจจะตามด้วยของไทย คือ ไข่เค็ม และเนื้อเค็มฉีกฝอย เคยเห็นน้ำที่ใช้เติมข้าวแช่ก็จะอบควันเทียน ส่วนของหวานนอกจากกะละแมของมอญแล้วก็ตามด้วยขนมไทยที่ชื่อเป็นมงคล เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง

งานสงกรานต์ที่ปากลัด พระประแดง ที่ขาดเสียไม่ได้ คือ การแข่งขันสะบ้ามอญ รวมทั้งการละเล่นมอญซ่อนผ้า สมัยก่อนเด็ก ๆ ในกรุงเทพฯที่อยู่บ้านไม่มีรั้ว ก็ยังเล่นแข่งสะบ้า มอญซ่อนผ้า ลูกข่าง ป่านคมแข่งว่าวกัน ว่าวที่ขึ้นชื่อที่เด็ก ๆ นิยมไปซื้อกันก็คือร้านยิ้มแย้ม อยู่ใกล้สี่แยกอุรุพงษ์ ส่วนป่านคมก็เอาเศษแก้วไปให้รถไฟทับ บดละเอียดแล้วนำมาผสมกับแป้งเปียก เอามาพอกรูดให้จับตัวไปกับด้ายตราสมอ เบอร์ 8
ส่วนที่สนามหลวง เดือนเมษายนเป็นฤดูลมว่าว จึงมีการแข่งขันว่าวจุฬากับปักเป้า เป็นกีฬาดั้งเดิมของไทย ว่าวจุฬาท่าผยองของไทยต้องใช้คนหลายคนในการชัก ส่วนว่าวปักเป้าก็ต้องพยายามโฉบให้จุฬาตกให้ได้ สนามหลวง

นอกจากจะเป็นที่เฉลิมฉลองวันปีใหม่สงกรานต์แล้ว ยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวกรุงเทพมหานคร ตกกลางคืนก็จะมีมหรสพหลายอย่าง ที่ขาดเสียมิได้ คือ โขนกรมศิลป์ ยี่เก หรือนาฏศิลป์ ภาพยนตร์กลางแปลงที่ฉายทั้งหนังไทยหนังฝรั่ง รวมทั้งลำตัดคณะหวังเต๊ะและแม่ประยูร และอื่น ๆ ที่พระประแดงหรือปากเกร็ดสมัยก่อนจะมีทะแยมอญหรือรำทะแยมอญ เป็นการแสดงที่มีลักษณะร้องโต้ตอบกันระหว่างชายหญิงในเรื่องพุทธประวัติ จะไม่หยาบคายสองแง่สองง่ามแบบลำตัดไทย เคยไปฟังของพม่าที่ร้องตอบโต้กันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย

ก็คล้าย ๆ กับทะแยมอญ คือโต้ตอบกันในเรื่องพุทธประวัติลาวนั้นเรียกว่า งานบุญขึ้นปีใหม่ มีการเฉลิมฉลองกันเกือบทุกเมืองที่เป็นเมืองใหญ่ ๆ ประเพณีก็คล้าย ๆ กับงานวันสังขารล่องที่เชียงใหม่ หรือสุโขทัย มีตักบาตร ถวายอาหารเช้าที่วัด รดน้ำพระพุทธรูป รดน้ำพระสงฆ์ แล้วก็กลับบ้านไปรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ปู่ย่าตายาย เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ให้ท่าน

เคยไปงานปีใหม่สงกรานต์ที่เมืองเชียงรุ้ง หรือเจียงฮุ่ง จีนออกเสียงเชียงรุ้งไม่เป็น อ่านตามตัวสะกดหยินปิง Jinghong ว่าจิ่งหง ไทยเราควรจะเรียกให้ถูกอย่างไทยว่าเมืองเชียงรุ้ง หรือเมืองเจียงฮุ่ง หรือตามสำเนียงไทยใหญ่สิบสองปันนา เหมือนกับเมืองเจียงใหม่ เจียงฮาย เจียงแสน เจียงตุง เชียงหรือเจียงใช้เรียกเมืองที่มีกำแพง งานสงกรานต์ที่เมืองเชียงรุ้ง จังหวัดสิบสองปันนา จีนออกเสียงไม่เป็น ออกเสียงแบบอื่นว่า สี่ซวงปานหน่า การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้หญิงยังคงความเป็นไตหรือไท หวีผมแซมด้วยดอกไม้แบบออง ซาน ซู จี ผู้นำของประเทศพม่าคนปัจจุบัน สงกรานต์จึงเป็นวันสำคัญของไทยที่รับวัฒนธรรมมาจากมอญ และแพร่หลายไปยังพม่า พุกาม ล้านนา ล้านช้าง สยามประเทศ

ไม่มีสงกรานต์ปี 2563 เมื่อเห็นสถานที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ทุกคนต่างก็รู้ตัวกลัวภัยจากโรคระบาดที่โหดร้าย ที่ติดจากคนสู่คนทางละอองน้ำมูกน้ำลาย จากการพูดไอจาม จากเนื้อเยื่อ จากการสัมผัส เป็นเชื้อโรคที่ติดต่อกันได้ง่ายและทนอยู่บนพื้นผิวสิ่งของได้หลายวัน เป็นสิ่งที่ถ้าฟังจากหมอจากแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญและจากการชันสูตรพลิกศพ และประวัติการติดโรคของผู้ที่ป่วย

แรก ๆ ก็คิดว่าพลาสมาจากน้ำเหลืองของผู้ที่หายป่วยจากโรคนี้แล้ว ที่ร่างกายได้ผลิตเม็ดเลือดขาวหรือแอนติบอดีแล้วจะสามารถนำมาผลิตเป็นเซรุ่มรักษาคนไข้ได้เช่นเดียวกันกับกาฬโรค อหิวาต์ ไข้เหลือง บิด ไข้รากสาด หรือไข้มาลาเรีย และอื่น ๆ ก็ปรากฏว่าโรคโควิด-19 หรือไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นโรคที่ผู้ป่วยที่หายป่วยแล้วสามารถป่วยซ้ำได้อีก ร่างกายไม่สามารถผลิตเม็ดเลือดขาวหรือแอนติบอดีได้เพียงพอที่จะปราบเชื้อได้หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

ผู้สูงวัยอายุเกิน 70 ปี ไวรัสชนิดนี้ฉลาดพอที่จะไปหลบอยู่ระหว่างเซลล์ของร่างกายมนุษย์ วันดีคืนดีก็จะโผล่ออกมาแพร่พันธุ์ ทำให้เกิดโรคปอดบวม ทำให้เสียชีวิตได้ความตื่นตระหนกทำให้รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องยกอำนาจอธิปไตย ทั้งอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการให้กองทัพนักรบเสื้อกาวน์ ดำเนินการปิดกิจการธุรกิจ ห้ามการชุมนุมกันในงานต่าง ๆ

เช่น สนามมวย คอนเสิร์ต การละเล่น หรือแม้แต่กิจการงานอาชีพที่มีลักษณะบริการต่าง ๆเช่น หมอนวด ร้านตัดผม ร้านทำผม โรงงานที่ต้องมีการรวมตัวกันทำงาน ตลาดสด ตลาดนัด ขอให้คนแก่อายุเกิน 70 ปีอยู่กับบ้าน อย่าออกนอกบ้าน เพราะถ้าเกิดติดโรคนี้แล้วหลายประเทศเขาปล่อยให้ตายเลยเพราะไม่มีเตียง ไม่มีเครื่องช่วยหายใจ และไม่มีบุคลากรเพียงพอในการดูแล ที่น่าเศร้าสลดก็คือในยุโรปและนิวยอร์กที่เกาะฮาร์ต คือ ขุดหลุมฝังศพรวมไว้คอยท่า สำหรับประเทศของเรายังพอมีเมรุว่างไว้บริการ แต่หลวงพ่อเจ้าอาวาสบางวัดก็วิตกจริตเกินเหตุ จะไม่รับสวดและเผาศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคไวรัสโคโรน่า ผิดวิสัยของชาวพุทธที่ถือว่าเกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา มีหน้าที่อย่างไรก็ทำไปอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท แต่ไม่ใช่ไม่ทำ

การถูกกักบริเวณ หรือ quarantine ตัวเองอยู่กับบ้าน 14 วัน ซึ่งไม่ทราบจะนับจากวันไหน เพราะบางทีก็แอบออกมาซื้อข้าวซื้อของ แม้จะดิสแทนซิ่งตัวเองอย่างที่เขาว่า ก็ไม่น่าไว้ใจว่าจะติดหวัดโคโรน่าหรือไม่ เพราะฟังข่าวมาก ๆ ก็เห็นมีคนติดโดยไม่ปรากฏอาการ โดยไม่ได้มาจากต่างประเทศ ไม่ได้ไปยุ่งกับสนามมวย ผับบาร์ ไม่ได้ไปสัมผัสหรือเข้าใกล้คนที่ติดต่อสัมพันธ์กับผู้ติดโรค เอาเป็นว่ามันอยากเป็นก็จะเป็น ระวังตัวให้ดีที่สุด ไม่ประมาท ถนนหนทางจึงว่างโล่ง ทำให้ได้เห็นภาพเมืองที่สงบสวยงามในอีกแบบหนึ่ง


ที่แน่ ๆ พวกเราหลายคนเป็นโรคประสาทไปก่อนแล้ว