
วงการลูกหนังอาลัยเจ้าพ่อลูกฟรีคิก “มิฮายโลวิช” เสียชีวิตแล้ว ในวัย 53 ปี จากภาวะลูคีเมีย ย้อนประวัติดาวดังยุค 90s-2000 ในวงการฟุตบอล
วันที่ 17 ธันวาคม 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายซินิซา มิฮายโลวิช (Siniša Mihajlović) อดีตนักฟุตบอลทีมชาติยูโกสลาเวีย (ปัจจุบันคือเซอร์เบีย) และอดีตกุนซือสโมสร เอซี มิลาน และสโมสรโบโลญญ่า เสียชีวิตจากการป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัย 53 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา
- พระราชทานอภัยโทษ คดีทักษิณ ที่มาวาระอันเป็นมงคล วโรกาสสำคัญ
- หมอธีระวัฒน์ ชี้ งานวิจัยระบุ ชอบกินเนื้อสัตว์เสี่ยงตาย ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกาย ไม่ช่วย
- ในหลวง พระราชินี เสด็จฯส่วนพระองค์ ทรงร่วมแข่งเรือใบ จ.ภูเก็ต
“มิฮายโลวิช” เป็นนักฟุตบอลที่ได้รับชื่อเสียงท่วมท้นจากความสามารถในการเตะลูกนิ่ง หรือ ฟรีคิก ที่จัดวางเข้ากรอบประตูด้วยเท้าซ้ายอย่างแม่นยำ จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “เจ้าพ่อลูกนิ่ง” หรือ “เจ้าพ่อฟรีคิก” หรือนักเตะผู้เล่นลูกฟรีคิกที่ดีที่สุดตลอดกาล
มิฮายโลวิช เกิดเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1969 ที่เมืองเมืองวูโคว่า ดินแดนของโครเอเชีย เขามีเชื้อสายเซอร์เบียจากพ่อและเชื้อสายโครแอตจากแม่ ต่อมาในช่วงวัยรุ่น มิฮายโลวิช อาศัยกับพ่อแม่อยู่ในเมืองโบรโวโร (Borvoro) ได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลโดยเข้าร่วมทีมเยาวชนแห่งยูโกสลาเวีย ลงเอยด้วยการคว้าแชมป์เยาวชนโลก ค.ศ.1987 ที่ชิลี จากนั้นเขาได้ร่วมเล่นในสโมสรระดับชาติหลายแห่งและได้รับความสนใจจากทักษะการยิงลูกนิ่งที่เฉียบคม
ต่อมาเกิดความขัดแย้งในคาบสมุทรบอลข่านโดยเฉพาะพื้นที่สมาพันธรัฐสลาฟใต้ (ยูโกสลาเวีย: สโลนีเนีย, โครเอเชีย, เซอร์เบีย, บอสเนียเฮอร์เซโกวีน่า, มาซิโดเนีย และมอนเตเนโกร) ในสงครามประกาศอิสรภาพโครเอเชีย (ค.ศ.1991) ทำให้ครอบครัวของเขาต้องลี้ภัยเพราะมีการสังหารเพื่อนบ้านชาวโครแอตในวัยเด็กของเขาจำนวนมากในเมืองโบรโวโร ในขณะนั้นเขากำลังเป็นดาวรุ่งของสโมสร Vojvodina ในเซอร์เบีย ที่ได้ร่วมแข่งขันในรายการยูโรเปี้ยนคัพ เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของสโมสร (1989-1990)
หลังจากนั้นเขาได้เดินทางไปค้าแข้งกับสโมสรมากมายในยุโรป ทั้ง วอยวอดีนา, เรดสตาร์เบลเกรด, โรมา
ซามพ์โดเรีย, ลาซีโอ และ อินเตอร์มิลาน
โดยเหตุการณ์ที่ทำให้ความสามารถของเขาประจักษ์และได้รับความชื่นชมท่วมท้นจากแฟนบอลทั่วโลก คือช่วงเวลาที่เขาลงเล่นให้กับ สโมสรลาซิโอ ช่วง ค.ศ. 1998-2004 พาทีมคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และรายการในประเทศมากมาย หนึ่งในตำนานของเขาก็คือการทำ แฮตทริก ฟรีคิก ใส่ ซามพ์โดเรีย ในเกมเดียวจนพา ลาซิโอ ชนะไปแบบสุดมัน 5-2 ในเซเรีย อา เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1998
ในช่วงปี 2004 มิไฮโลวิช ได้ย้ายมาเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน โดยคว้าแชมป์กัลโช่ สมัยที่ 2 ให้แก่ตนเอง และเป็นสโมสรสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพก่อนเลิกเล่นไป ส่วนผลงานกับทีมชาติยูโกสลาเวีย ลงเล่นไป 63 นัด ยิง 10 ประตู และได้ลงเล่นฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสด้วย
ด้านการแข่งขันฟุตบอลโลก แม้ภายในยูโกสลาเวียจะมีความขัดเเย้งทางชาติพันธุ์ที่รุนแรงในช่วง ปี 1998-2001 เขายังคงเล่นให้ทีมชาติยูโกสลาเวีย จนยูโกสลาเวียล่มสลาย เป็นทีมชาติเซอร์เบียและมอนเตเนโกรในฟุตบอลโลกปี 2006
หลังแขวนสตั๊ด มิฮายโลวิช ผันตัวมาทำงานด้านโค้ชหรือผู้จัดการทีม มีประสบการณ์คุมทีมในอิตาลีทั้ง ซามพ์โดเรีย, เอซี มิลาน, โตริโน่, โบโลญญ่า รวมถึงเคยคุมทีมชาติเซอร์เบีย ระยะสั้น 2012-2013 โดยช่วงที่เขาคุมโบโลญญ่าในช่วงปี 2019 เขาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย ต้องทำงานพร้อมกับทำเคมีบำบัดเป็นระยะ จนในที่สุดเขาได้จากโลกนี้ไป เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ครอบครัวของเขากล่าวอาลัยยิ่งว่า
“เรารู้สึกเจ็บปวดยิ่งที่ต้องประกาศว่าเขาได้จากไปก่อนเวลาอันควร เขาคือสามี พ่อ ลูกชาย และพี่ชายที่เป็นแบบอย่างที่ดีของเรา”