
พระราชประวัติ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน พระชายาสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี
วันที่ 22 ธันวาคม 2565 สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานแจกันดอกไม้ที่หน้าพระรูป พร้อมลงพระนามเยี่ยมพระอาการประชวร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
- เช็กเงื่อนไขกู้ “ออมสิน” ปลดหนี้นอกระบบ คุณสมบัติผู้กู้ต้องมีอะไรบ้าง ?
- ขั้นตอนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ออนไลน์ debt.dopa.go.th ทำอย่างไร
- เช็กเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้าบัญชีวันนี้ 5 จังหวัด
โอกาสนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” นำเสนอพระราชประวัติ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน พระชายาสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี
พระราชประวัติ สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน
สำหรับสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก พระนามเดิมคือ เจตซุน เพมา ทรงเป็นธิดาคนที่สองจากจำนวนพี่น้องห้าคนของนายธอนทุบ กยอลเซน กับนางโซนัม ชูกี โดยบิดาของพระองค์เป็นนักบินสายการบิน Kingfisher Airlines ของประเทศอินเดีย ส่วนมารดามาจากตระกูลเก่าแก่ของภูฏาน
นอกจากนี้ ในรุ่นของพระอัยกา (คุณตา) ทรงเป็นพระราชอนุชา (น้องชาย) ต่างมารดาของสมเด็จพระปัยยิกา (คุณย่าทวด) ของกษัตริย์จิกมีองค์ปัจจุบันด้วย
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก ทรงสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ประเทศภูฏาน ก่อนที่จะเสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ลอว์เรนซ์สคูล ในซานาวาร์ หิมาจัลประเทศ และที่เซนต์โจเซฟคอนแวนต์ ในกาลิมพง ประเทศอินเดีย
ต่อมาได้ทรงศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรีเจนต์คอลเลจ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยพระองค์มีความสนพระทัยในงานศิลปะเรอเนสซองส์ และมีงานอดิเรกคือการถ่ายภาพเช่นเดียวกับสมเด็จพระราชาธิบดี รวมทั้งยังโปรดฟังเพลงพื้นเมืองด้วย นอกจากนี้ยังทรงโปรดกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งพระองค์เคยทรงดำรงตำแหน่งกัปตันทีมบาสเกตบอล
อภิเษกสมรส
โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554 พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ณ พูนาคาซอง และมีการเฉลิมฉลองตามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ พูนาคา, ทิมพู และพาโร
อย่างไรก็ตาม แม้พระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้จะจัดแบบดั้งเดิม และตามประเพณีของภูฏานจะสามารถมีภรรยาหลายคนได้ แต่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีได้ตรัสว่า พระองค์จะไม่อภิเษกสมรสกับสตรีนางใดอีก และจะมีเพียงแต่ เจตซุน เพมา เป็นพระชายาเท่านั้น
หลังจากอภิเษกสมรส เจตซุนได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน โดยมีการเฉลิมพระนามาภิไธยว่า สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก
สำหรับเรื่องราวความรักของพระราชินีกับสมเด็จพระราชาธิบดีนั้น ทั้งสองพระองค์ทรงพบรักกันตอนที่องค์ราชินีมีพระชนมายุเพียง 7 พรรษา เนื่องด้วยครอบครัวของพระราชินีเจตซุนสนิทกับราชวงศ์ภูฏาน ทำให้ทั้งสองพระองค์ได้พบกันตั้งแต่ทรงพระเยาว์
หลังจากการอภิเษกสมรสผ่านไปเป็นเวลา 4 ปี ในช่วงปลายปี 2558 หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในภูฏานก็ได้เผยแพร่ข่าวที่น่ายินดีว่า สมเด็จพระราชินีทรงพระครรภ์ และทรงให้ประสูติการพระราชโอรส คือ เจ้าชายจิกมี นัมเกล วังชุก ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 โดยทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น มกุฎราชกุมารแห่งภูฏาน และทรงเป็น รัชทายาทแห่งราชบัลลังก์ภูฏาน แทนเจ้าชายจิกเยล อุกเยน วังชุก ผู้เป็นพระปิตุลา (อาชาย)