
เปิดประวัติ “เดลฟีน อาร์โนลต์” ลูกสาวของมหาเศรษฐีผู้รวยที่สุดในโลก ขึ้นแท่นสตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการแฟชั่น ในฐานะซีอีโอของ “ดิออร์”
“เดลฟีน อาร์โนลต์” ลูกสาวคนโตของ “แบร์นาร์ด อาร์โนลต์” ประธานแอลวีเอ็มเอช (LVMH) กำลังจะเข้ารับตำแหน่งสูงสุดของแบรนด์ “คริสเตียน ดิออร์” หลังจากทำงานที่ “แมคคินซีย์” (McKinsey) ในช่วงสั้น ๆ และทำงานในหลายบทบาทให้กับแอลวีเอ็มเอช ตั้งแต่ปี 2553
- วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กวันหยุด วันสำคัญ วันหยุดยาว-หยุดต่อเนื่อง
- ปลุกช้อปดีมีคืนภาษี 5 หมื่น ไฟเขียวค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว โรงแรม-ตั๋วเครื่องบิน
- เจ้าสัวธนินท์ กับนายกฯ
เช่นเดียวกับลูกคนอื่น ๆ ของแบร์นาร์ด ที่ต้องทำงานให้แบรนด์ต่าง ๆ ในเครือแอลวีเอ็มเอช เช่น หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton), เบอร์ลูติ (Berluti) และแทค ฮอยเออร์ (TAG Heuer)
“เดลฟีน อาร์โนลต์” เกิดใกล้กรุงปารีส เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2518 เธอเป็นลูกของแบร์นาร์ดกับภรรยาคนแรกของ “แอน เดวาฟริน”
ในฐานะลูกสาวคนโต (เธอมีน้องชาย 4 คน) เธอนับเป็นทายาทของอาณาจักรสินค้าหรูที่มีมูลค่ากว่า 13 ล้านล้านบาท
เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนประถมในกรุงปารีส ที่มีกฎให้พูดภาษาอังกฤษ จึงทำให้เธอใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
หลังจบการศึกษาจากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน เมื่อปี 2540 เดลฟีนได้เข้าทำงานที่แมคคินซีย์
“ฉันได้เรียนรู้ด้านกลยุทธ์” เธอกล่าวกับไฟแนนเชียลไทมส์ พร้อมระบุว่า “ในการนำเสนอที่อเมริกา พวกเขาจะเริ่มต้นด้วยบทสรุป ก่อนจะกล่าวถึงวิธีที่จะไปสู่จุดนั้น และฉันพบว่าน่าสนใจมาก มันตรงประเด็น”
2 ปีต่อมา เธอได้ร่วมงานกับดีไซเนอร์ดังอย่าง “จอห์น กัลลิอาโน” (John Galliano) ซึ่งช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นมากขึ้น โดยในเวลานั้น “กัลลิอาโน” ยังเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของดิออร์
เมื่อปี 2548 เธอแต่งงานกับทายาทบริษัทไวน์อิตาลี “อเลสซานโดร วัลลาริโน กานเซีย” ซึ่งฟอร์บสเรียกว่าเป็น “งานแต่งงานแห่งปีของฝรั่งเศส” แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็หย่าร้างกันเมื่อปี 2553

จากนั้นเธอจึงเริ่มสานสัมพันธ์กับมหาเศรษฐีด้านโทรคมนาคมชาวฝรั่งเศส “ซาวิเยร์ นีเอล” ตอนนี้ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 2 คน
เมื่อปรากฏวิดีโอที่กัลลิอาโนแสดงความเห็นต่อต้านชาวยิว ทำให้เขาถูกไล่ออกจากดิออร์ เมื่อปี 2554 เดลฟีนได้รับความไว้วางใจให้จัดการเพื่อป้องกันผลกระทบต่อบริษัท และครั้งนั้นได้มีการแต่งตั้ง “ราฟ ซิมงส์” เข้ามาทำหน้าที่แทนกัลลิอาโน
ตั้งแต่ปี 2556 เดลฟีนได้เข้ามารับผิดชอบกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของหลุยส์ วิตตอง ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของแอลวีเอ็มเอช
เธอกล่าวกับไฟแนนเชียลไทมส์ว่า สไตล์การบริหารของเธอนั้น “ค่อนข้างสงบเงียบ” แม้ว่าเธอจะชอบไปเยี่ยมร้านต่าง ๆ ในเครือเสมอ ในช่วงบ่ายวันเสาร์อันแสนวุ่นวาย
ตอนอายุ 43 ปี เดลฟีนกลายเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุด และเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ในคณะกรรมการบริหารของแอลวีเอ็มเอช ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา
เดือนมกราคม 2566 แอลวีเอ็มเอชประกาศว่าเธอจะเข้ารับตำแหน่งซีอีโอของคริสเตียน ดิออร์ แทนที่ “ปิเอโตร เบคคารี” ซึ่งจะย้ายไปบริหารหลุยส์ วิตตอง

“ภายใต้การนำของเธอ ทำให้ความต้องการในผลิตภัณฑ์หลุยส์ วิตตอง เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กระทั่งสามารถสร้างยอดขายทำลายสถิติเดิมบ่อยครั้ง” บิดาของเธอระบุในแถลงการณ์ พร้อมยกย่องว่า “ข้อมูลเชิงลึกที่เฉียบคมและประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเธอ จะเป็นปัจจัยชี้ขาดในการผลักดันการพัฒนาคริสเตียน ดิออร์ อย่างต่อเนื่อง”
“โธมัส โชเวท” นักวิเคราะห์ของซิตี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “การวางแผนสืบทอดตำแหน่งที่มีบทบาทในเชิงกลยุทธ์ เป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์หลัก ๆ ในเครือแอลวีเอ็มเอช ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา”
- มหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลก ตั้งลูกสาวเป็นผู้บริหาร ดิออร์ (Dior)
-
Charles & Keith เชิญสาววัย 17 ปี พบผู้ก่อตั้งแบรนด์ หลังถูกบูลลี่บน TikTok