เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
หน้าแรก ประวัติบุคคล รู้จัก “บุญเก...

รู้จัก “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” ผู้ร่วมก่อตั้ง “ไทยภักดี” เสียชีวิตด้วยมะเร็งเยื่อบุช่องท้อง

รู้จัก “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” ผู้ร่วมพรรคไทยภักดี จากโลกด้วยมะเร็งเยื่อบุช่องท้อง

เปิดประวัติ ทำความรู้จัก “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” ผู้ร่วมพรรคไทยภักดี จากโลกด้วยมะเร็งเยื่อบุช่องท้อง

นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรคไทยภักดีเสียชีวิตแล้วด้วยอาการอันสงบ ที่บ้านพักในจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อค่ำคืนวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 23.55 น. โดยกำหนดการตั้งศพไว้ที่วัดหนองลานราษฎร์บำรุง ในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเวลา 7 วัน

สำหรับอาการป่วยของนายบุญเกื้อ เขาได้เปิดเผยว่า ตนเองป่วยเป็นมะเร็งในช่องท้อง ครั้งแรกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เขาระบุถึงอาการป่วยว่า มีขนาดโตขึ้น การรักษาด้วยวิธีคีโมไม่ได้ผล (ดื้อยา) แพทย์จุฬาฯ ต้องเปลี่ยนวิธีรักษามาเป็นการฉายรังสี ( แสง) เมื่อฉายแสงครบ 10 ครั้งแล้วแพทย์ จะรอดูอาการอีก 3 เดือนว่าดีขึ้นหรือไม่

จากนั้น 25 มกราคม 2565 นายบุญเกื้อโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก เป็นการกล่าวอำลาต่อญาติพี่น้องมิตรสหายทุกคน รวมถึงขออโหสิกรรม ไม่เอาโทษต่อกัน เลิกแล้วต่อกันอย่าได้มีเวรกันต่อไป อีกทั้งยังระบุอีกว่า โรคมะเร็งเยื่อบุช่องท้องที่เขาป่วยนั้น กำลังเข้าสู่ระยะสุดท้าย

ขณะที่ นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงอาการป่วยนายบุญเกื้อ​ และโพสต์ให้กำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย รวมถึงแจ้งข่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับนายบุญเกื้อเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ทั้งนี้ นายอานนท์ยังระบุว่า “แต่แล้วความก็ทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาท​ ทรงพระมหากรุณาธิคุณแก่พี่บุญเกื้อเป็นล้นพ้นเหลือประมาณ​ ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เมื่อผมเจอพี่บุญเกื้อหลังจากนั้น​ พี่บุญเกื้อขอบใจผมและพนมมือขึ้นท่วมหัวด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ บัดนี้การเดินทางระยะสุดท้ายกลับสู่ธรรมชาติของพี่บุญเกื้อกำลังจะเริ่มต้นขึ้น”

สำหรับนายบุญเกื้อ มีประวัติโดยคร่าวว่า จบการศึกษาที่โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม จังหวัดกาญจนบุรี และจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นอดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย รวมถึงเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยภักดี ของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่มีอุดมการณ์ กษัตริย์นิยม อนุรักษนิยม ชาตินิยม

มีบรรพบุรุษเป็นพระสังฆราช

นายบุญเกื้อ ระบุถึงนามสกุล “ปุสสเทโว” ของตนเองอีกว่า นายตาด ปุสสเทโว ทวดผม เป็นบุตรของสมเด็จพระสังฆราชสา ปุสฺสเทโว พระสังฆราชองค์ที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ นายตาดเกิดช่วงที่สมเด็จสาได้ลาสิกขามาใช้ชีวิตฆราวาสอยู่ระยะหนึ่งและมีบุตรชาย 3 คน ซึ่งเป็นที่มาของนามสกุล ปุสสเด็จ และปุสสเทโว แห่งเมืองนนทบุรี ก่อนที่รัชกาลที่ 4 จะให้ตามตัวนายสากลับมาบวชใหม่

#ปชชงพรจตกม 

ในเดือนเมษายน ปี 2563 รัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล กระทรวงการคลังได้ทำการรับเรื่องอุทธรณ์การรับเงินเยียวยาครั้งนั้น มีประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาแสดงความไม่พอใจ

นายบุญเกื้อ ขณะเป็นผู้ช่วย ส.ส. กาญจนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย ได้แสดงความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์ประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวว่า  “คนกลุ่มหนึ่งที่อ้างว่าไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลที่ผิดพลาด ได้บุกเข้ามาในกระทรวงการคลังพร้อมกับนักข่าวทีวีและนักข่าวหนังสือพิมพ์ โวยวายด่าทอรัฐบาลอย่างหยาบคาย บางคนก็แสดงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ถกตูดถกก้นให้รัฐบาล เป็นภาพออกสื่อมวลชน….ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคนพวกนี้สมควรจะได้รับการเยียวยาหรือไม่ แค่ไหน เพียงใด”

นอกกจากนี้ เขายังติดแฮชแท็ก #ปชชงพรจตกม พร้อมแฮชแท็ก #โควิด19

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวของนายบุญเกื้อได้ถูกเผยแพร่ออกไป เขาโดนวิจารณ์อย่างหนัก มีผู้กดแสดงความรู้สึกกว่า 2.3 พันครั้ง แสดงความคิดเห็น 7.2 พันครั้ง และแชร์ส่งต่อไปอีก 1.9 พันครั้ง

ลูกนัทตาบอดไม่จริง

นอกจากนี้ นายบุญเกื้อมักแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมในประเทศไทยอยู่หลายครั้ง หนึ่งในกรณีที่มีการพูดถึงอย่างมากคือ กรณีของไฮโซลูกนัท หรือ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนการชุมนุมจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เหตุการณ์ในวันดังกล่าว เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและตำรวจควบคุมฝูงชน โดยเจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสกัดกั้นผู้ชุมนุม ทำให้นายธนัตถ์โดนกระสุนแก๊สน้ำตา บริเวณคิ้วข้างขวา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักบริเวณตาข้างขวา ส่งผลให้ไฮโซลูกนัทได้ตาบอดลง

นายบุญเกื้อได้แสดงความคิดเห็นว่า “พลิกวิกฤตเป็นโอกาส แค่คิ้วแตก แท้จริงแล้ว ไม่ได้ตาบอด โดยกล้าท้าพิสูจน์ว่า หาก ไฮโซลูกนัท ตาไม่ได้บอดจริง..ถ้าเสียหายเชิญฟ้องผมได้เลย”

นอกจากนี้ นายบุญเกื้อมักแสดงความคิดเห็นถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า บนเฟซบุ๊กส่วนตัวบ่อยครั้ง