สภาโหวตผ่าน งบฯกองทัพ 8.5 หมื่นล้าน ฝ่ายค้านยังคาใจ ปมซื้อ F35

ที่รัฐสภา
REUTERS/Chalinee Thirasupa

สภาโหวตผ่าน งบฯกลาโหม 8.5 หมื่นล้าน ฝ่ายค้านยังคาใจ ปมซื้อเครื่องบินรบ F-35

วันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และวาระ 3 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พิจารณาเสร็จแล้ว เป็นวันที่สอง โดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งจะมีการพิจารณาลงมติมาตรา 8 งบประมาณกระทรวงกลาโหม วงเงิน 85,387,885,200 บาท ภายหลังจากที่สมาชิกสภาได้อภิปรายครบถ้วนแล้ว ซึ่งล่าช้าไป 30 นาที จากที่นัดหมายประชุมเวลา 09.30 น.

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ลุกขึ้นหารือว่า ก่อนปิดการประชุมเมื่อคืน ทางฝ่ายค้านไม่ได้ติดใจ แต่วันนี้ทำให้เราเสียเวลารอองค์ประชุมไป 30 นาที ซึ่งกระบวนการในการพิจารณางบฯใช้เวลามาก และมีผู้แปรญัตติจำนวนมาก

เราไม่สามารถไปปิดกั้นเอกสิทธิ์ของสมาชิกในการสงวนความเห็นและสงวนคำแปรญัตติได้ คงต้องร่วมมือกันพิจารณาให้จบสิ้น แต่ถ้าเป็นลักษณะนี้ตนเกรงว่า วันที่ 19 สิงหาคม อาจจจะพิจารณาไม่จบได้ เพราะเมื่อวาน (17 สิงหาคม) การพิจารณาเดินหน้าได้ช้ามาก หากมีความจำเป็นต้องประชุมเลยช่วงวันที่ 19 สิงหาคม อาจจะต้องร่วมมือกันทำงานในวันหยุด หรือจะเป็นวันที่ 22 สิงหาคมก็ได้

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ ขอให้ประธานเปิดโอกาสให้มีการซักถามเพิ่มเติมในมาตรา 8 ซึ่งไม่ใช่การอภิปรายเพิ่มเติม แต่เป็นคำถามเชิงกฎหมาย เรื่องกระบวนการแปรญัตติ และการคืนงบประมาณให้กองทัพอากาศ ที่ตนเป็นห่วงว่ากระบวนการตรากฎหมายที่ผ่านชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ถูกต้องตามขั้นตอนและกฎหมายหรือไม่ เพราะกองทัพอากาศของบฯคืน 5% ที่ต่ำกว่าที่มติ ครม.กำหนดไว้ว่าต้อง 10% เป็นอย่างต่ำ ถือเป็นการผลักภาระให้รัฐบาลถัดไปตั้งงบประมาณมาซื้อเครื่องบินรบของท่านหรือไม่ เอาอำนาจอะไรในการอนุมัติเงินงบฯ 5% และไปหวังว่ามติ ครม.ให้ 5% ตามที่ท่านขอ เพราะขั้นตอนผิดฝาผิดตัว หากสภาลงมติให้ความเห็นชอบให้ปรับลด 5% แล้วหวัง ครม.ออกมติ ครม.ย้อนหลัง หากผิดพลาดขึ้นมามีคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 148 ร่างกฎหมายจะตกทั้งฉบับ

ขณะที่ นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรค พท. อภิปรายว่า การที่เราอนุมัติงบฯตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 หากผู้อนุมัติมีส่วนได้ส่วนเสียจะมีความผิด การที่แปรญัตติให้กองทัพอากาศนั้น ถามว่า ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งก็เป็นนักการเมืองด้วย เพราะต้องพิจารณาในขั้นตอนวุฒิสภา ประเด็นข้อกฎหมายนั้นเป็นอย่างไร ตนกลัวว่า กมธ.ชุดนี้จะฟ้องกันเอง เพราะท่านเป็นนักร้องอยู่แล้ว และท่านก็บอกว่าอันนี้มันไม่ชอบในขั้น กมธ. จึงขอให้ผู้มีความรู้เป็นนักกฎหมายแม่น ๆ ตอบว่าแบบนี้กฎหมายจะสามารถใช้ได้หรือไม่ได้

ส่วน นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรค พท. อภิปรายว่า ตนมีความเป็นห่วงว่างบประมาณผ่านสภาแห่งนี้แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องอำนาจ หน้าที่ สิทธิ ที่ฝ่ายค้านยื่นต่อประธานสภา เพื่อสอบถามวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ตนเกรงว่า หลังวันที่ 24 สิงหาคมไปแล้ว มีปัญหาว่านายกฯไม่มีสิทธิและไม่มีอำนาจ แล้วงบประมาณนี้จะใช้กันอย่างไร ตนเป็นห่วงเรื่องผู้ที่โหวตผ่านจะมีความผิดด้วยหรือไม่ เพราะรู้กันอยู่ว่านายกฯมีปัญหาเรื่องอายุ อำนาจ และการอนุมัติงบประมาณที่จะใช้ต่อไป เพราะ 8 ปีของนายกฯจะครบวันที่ 24 สิงหาคมนี้

ด้านนายศุภชัยชี้แจงว่า เมื่อคืนนี้วันที่ 17 สิงหาคม มีการปิดอภิปรายมาตรานี้ไปแล้ว และ กมธ.ได้ชี้แจงไปแล้ว แต่เมื่อมีประเด็นซักถามเพิ่มเติมก็สามารถใช้สิทธิซักถามได้ เพียงแต่เอาประเด็นที่ข้องใจจริง ๆ ถ้าถามตั้งแต่การอภิปรายแล้วไม่ต้องถามอีกก็ได้ อีกทั้งเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี เราไม่ใช่ศาลตัดสิน

ขณะที่ นายวราเทพ รัตนากร ในฐานะรองประธาน กมธ. ชี้แจงการปรับลดงบประมาณในส่วนกระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาซื้อเครื่องบินขับไล่ F-35A ว่า

การปรับลดงบประมาณต่ำกว่ามติ ครม.ที่กำหนดไว้ในการก่อหนี้ผูกพันนั้น ข้อเท็จจริงในชั้นอนุกรรมาธิการได้รายงานว่า ปรับลดลงทั้งก้อน แต่ในส่วนของ กมธ.ชุดใหญ่มีมติเห็นว่าการปรับลดนั้น ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนกองทัพที่จะได้ยุทโธปกรณ์ไปดำเนินการในการใช้ และวางแผนตามความเหมาะสม กมธ.เสียงข้างมากจึงพิจารณาว่ามติ ครม.เขียนลักษณะนั้นเพื่อบังคับทุกหน่วยงาน

รวมถึงกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้หมายความว่า การบังคับนั้นจะมาผูกพันกับการพิจารณางบประมาณของ กมธ.แต่อย่างใด เพราะเราแยกอำนาจในการตั้งงบประมาณที่เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส่วนอำนาจการอนุมัติเป็นอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ

“เรื่องนี้ที่ประชุม กมธ.ชุดใหญ่ ไม่ได้มีการสอบถามว่าการพิจารณาไปขัดหรือแย้งมติ ครม.หรือไม่ เพราะทุกคนเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจการปรับลดตัดทอนที่ไม่ขัดมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นที่ห่วงว่า กมธ.ตัดงบฯจะไปขัดมติ ครม.หรือไม่ เข้าใจว่ามี กมธ.บางท่านไปสอบถามสำนักงบประมาณแล้ว ทราบว่าเคยมีเรื่องการตั้งงบประมาณมาแล้วมีการปรับลดเหลือน้อยกว่าตามที่มติ ครม.กำหนด ซึ่งสามารถทำได้” นายวราเทพชี้แจง

จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติมาตรา 8 ปรากฏว่า มีผู้ลงมติเห็นด้วย 216 เสียง ไม่เห็นด้วย 83 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง