สมชัย อดีต กกต. ค้นข้อมูลบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500-501 พบ สุพจน์-มีชัย ให้ความเห็นวาระนายกฯ 8 ปี
วันที่ 29 กันยายน 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงการเข้ามาค้นหาบันทึกการประชุม คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยระบุว่า “พรรคเสรีรวมไทย มาค้นบันทึกการประชุม กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ให้เห็นกับตาตัวเอง หอสมุดรัฐสภา อยู่ที่ชั้น 9 อาคารกลาง ของรัฐสภา ยังไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการนัก เนื่องจากทางเข้าซับซ้อนและประชาชนทั่วไปอาจไม่สะดวกในการเข้าพื้นที่รัฐสภาใหม่
เอกสารบันทึกการประชุม กรธ. มี copy เดียว เย็บปกแข็ง จำนวน 11 เล่ม เป็นบันทึกครั้งที่ 1-ครั้งที่ 485 หนักเล่มละ ราว 3 กิโล ส่วนเล่มที่อยากดูเป็นปกอ่อนสีเหลือง ของการประชุมครั้งที่ 486-501 ที่แยกออกมาต่างหาก
บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 กันยายน 2561 เริ่มประชุมเวลา 13.40 น. มีกรรมการเข้าประชุม 19 คน ในวาระที่ 3 เป็นเรื่องเพื่อพิจารณา มีมาตราที่นำเข้าสู่การพิจารณา คือ มาตรา 158, 161, 171, 174, 175, 176, 177, 179, 180, 182 และ 183
ในส่วนมาตรา 158 ที่ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ห้ามเกิน 8 ปีนั้น อยู่ในหน้า 2-6 มีผู้อภิปรายและการมีมติดังนี้
“หากนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวรวมเข้ากับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย”
สุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมาธิการคนที่หนึ่ง (หน้า 3)
“เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา 264 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนหน้าประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ และให้นำความในมาตรา 263 วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งด้วยโดยอนุโลม”
การบัญญัติในลักษณะดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าวรวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเมื่อนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี”
มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. (หน้า 3-4)
“ได้กำหนดหลักการใหม่เกี่ยวกับการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนับระยะเวลา กล่าวคือ การนับระยะเวลาแปดปีนั้น แม้บุคคลดังกล่าวจะมิได้มีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันก็ตาม แต่หากรวมระยะเวลาทั้งหมดที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของบุคคลดังกล่าวแล้วเกินแปดปี ก็ต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ว่า การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีในระหว่างรักษาการภายหลังจากการพ้นตำแหน่ง จะไม่นำมานับรวมกับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว การกำหนดระยะเวลาแปดปีไว้ก็เพื่อมิให้เกิดการผูกขาดอำนาจในทางการเมืองยาวนานเกินไปอันจะเป็นต้นเหตุเกิดวิกฤตทางการเมืองได้”
มติที่ประชุม กรธ. (หน้า 6) เลิกประชุมเวลา 16.40 น.
บันทึกการประชุมครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 กันยายน 2561 เริ่มประชุมเวลา 14.05 น. มีกรรมการเข้าประชุม 18 คน
ระเบียบวาระที่สอง รับรองบันทึกการประชุม “คณะกรรมการมีมติรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 497 วันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2561 ถึงครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้ว โดยไม่มีการแก้ไข”
(หน้า 2)
เลิกประชุมเวลา 16.05 น.
จบแล้วครับเจ้านาย”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันพรุ่งนี้ (30 กันยายน 2565) องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะอ่านคำวินิจฉัยประเด็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครบ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยช่วงเช้า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน จะมีการประชุมและอภิปรายการวินิจฉัยร่วมกัน จากนั้นจึงลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยขององค์คณะตุลาการ ในเวลาประมาณ 15.00 น.
และในวันเดียวกัน กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายชุมนุมกรณีคำวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน เวลา 14.00 น.