ครม.อนุมัติ 6,077 ล้าน 19 โครงการ กปภ.ยกเครื่องระบบประปา

การประปานครหลวง ให้ใช้น้ำฟรี 10 ยูนิตแรก-ลด 20% สามเดือน

ครม.อนุมัติ 6,077 ล้านบาท ยกเครื่องระบบประปา 19 โครงการ ป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำ 10 ปีข้างหน้า ให้บริการผู้ใช้น้ำเพิ่มอีกกว่า 1 แสนราย

วันที่ 11 ตุลาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 6,077.808 ล้านบาท ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาปี 2564 ของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบผลิตน้ำ ระบบส่งน้ำ และระบบจ่ายน้ำประปา ให้สามารถบริการน้ำประปาแก่ประชาชนได้เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างพอเพียง

รวมทั้งเพื่อบริหารจัดการลดน้ำสูญเสียในระบบผลิต-จ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งสิ้น 19 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย และการบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย จำนวน 16 โครงการ และโครงการก่อสร้างปรับปรุงกิจการประปาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 3 โครงการ

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาระบบน้ำดิบ เช่น แหล่งน้ำดิบในบางพื้นที่ไม่มีคุณภาพ ปัญหาระบบผลิตน้ำ อาทิ ประชากรและครัวเรือนในแต่ละพื้นที่ มีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังการผลิตน้ำที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำใน 10 ปีข้างหน้าได้ โดยอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างสถานีสูบน้ำดิบ สถานีผลิตน้ำ และสถานีจ่ายน้ำแห่งใหม่จำนวน 12 แห่ง

ได้แก่ สาขาทุ่งสง/เชียงราย/นครพนม/ปักธงชัย-โชคชัย/แพร่-เด่นชัย (สูงเม่น)/โพนทอง/บำเหน็จณรงค์/ปากพนัง/ชัยบาดาล-(สระโบสถ์)/ศรีเชียงใหม่/เกาะพะงัน/มหาชนะชัย และก่อสร้างบนที่ดินเดิมทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่ สาขาเชียงคาน/กบินทร์บุรี/บ้านดุง-(เพ็ญ-บ้านธาตุ)-(บ้านม่วง)/บ้านผือ-(กลางใหญ่)-(น้ำโสม)-(กุดจับ)/ชุมพร/บ้านฉาง/พนมสารคาม

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถให้บริการผู้ใช้น้ำเพิ่มอีก 104,800 ราย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนในเขตพื้นที่จำหน่ายน้ำของโครงการได้รับบริการน้ำสะอาดที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอสำหรับใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค ในส่วนของงบประมาณ ที่ประชุม ครม.ได้เสนอให้ กปภ.พิจารณาใช้จ่ายเงินลงทุนจากเงินรายได้เป็นลำดับแรก และหากมีความจำเป็นต้องกู้เงิน ให้ กปภ.ดำเนินการตามความเห็นของกระทรวงการคลัง โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้ดำเนินโครงการด้วยความสุจริต โปร่งใส เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน