จิรายุ ยัน สอบปมขาย ไทย-เดนมาร์ค ให้เอกชนต่างชาติ มีมูล

จิรายุ ห่วงทรัพย์ ไทย-เดนมาร์ค

จิรายุ เพื่อไทย ยันสอบปม อ.ค.ส.ขายนมไทย-เดนมาร์คให้เอกชนต่างชาติ มีเกษตรกรมาร้อง โต้ มนัญญา แมนทั้งแท่ง เตรียมเรียกตัวมาชี้แจงดีลลับซิดนีย์

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุนเปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมจะปล่อยให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ขายแบรนด์สินค้าของรัฐบาลไทย ภายใต้โลโก้สัญลักษณ์รูป ”วัวแดง” ของนมยี่ห้อ ไทย-เดนมาร์ค ให้กับเอกชนต่างชาติว่า องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ที่อยู่คู่คนไทยมากว่าศตวรรษ และเป็นส่วนราชการที่ต้องดูแลเกษตรกรโคนมของคนไทย

ซึ่งแทนที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแล อ.ส.ค.จะเร่งตรวจสอบและชี้แจงต่อสังคม กลับออกมาว่าร้ายตนในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล ฝ่ายบริหารอย่างเสียหาย การที่นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวหาตนว่า “การที่จะตรวจสอบเรื่องจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน แต่ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง อะไรที่จะฉกฉวยมาโจมตีกัน ตนมองว่ามันไม่แมนเลย อย่าทำตัวเหมือนพวกเคี้ยวหมากฝรั่ง เอาความหวานเก็บไว้กับตัวเองแล้วคายกากให้คนอื่น”

“การมาด่าผมเช่นนี้ขอยืนยันว่า ผมแมนทั้งแท่ง และอยู่ดี ๆ คณะกรรมาธิการกิจการศาลฯ จะรู้ได้ยังไง ว่ามีการวางแผนจะขายยี่ห้อของเกษตรกรไทย ของประเทศไทย ที่เกษตรกรทำกันมาเกือบร้อยปีไปให้ต่างชาติ เพื่อแลกผลประโยชน์หรือไม่ และผมก็ไม่รู้ว่ามีคนเดินทางไปเปิดดีลที่ซิดนีย์จริงหรือไม่ ผมสนิทกับพี่ชายท่านรัฐมนตรีมากไม่อยากจะตอบโต้

แต่ถ้ารัฐมนตรีมนัญญาจะช่วยกรุณาทำหน้าที่รัฐมนตรีเพื่อประชาชน ในการชี้แจงข้อร้องเรียน ก็ขอเชิญวันพฤหัสฯที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ที่คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ”

นายจิรายุกล่าวว่า ตนในฐานะประธานกรรมาธิการได้ออกหนังสือเชิญด่วนที่สุดไปแล้ว เพื่อสังคมจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นต้องออกมาให้ร้ายตนในฐานะกรรมาธิการ ผู้รับเรื่องร้องเรียนเลย ไม่ใช่ตนอยู่ดี ๆ จะฝันแล้วตื่นขึ้นมาทำเรื่องนี้ เพราะมีกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมได้มาร้องเรียนต่อกรรมาธิการ มีเอกสารลับจำนวนมาก และพบว่ามีความไม่ปกติ พยายามใช้แท็กติกทางกฎหมายที่จะนำสัญลักษณ์วัวแดง ไทย-เดนมาร์ค ไปประเคนให้กับบริษัทเอกชนต่างชาติที่ไม่ใช่ของประเทศเดนมาร์กเสียด้วยซ้ำ

อีกทั้งสหภาพแรงงานของ อ.ส.ค.ยังได้เห็นความผิดปกติ ส่อไปในทางทุจริต เอื้อประโยชน์เอกชน โดยหวังเงินทอนหรือมีฝ่ายการเมืองไปแทรกแซงจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ถ้ารัฐมนตรี มาชี้แจงด้วยตนเอง ตนเชื่อว่าประชาชนจะชื่นชมที่มาตอบข้อกังขาให้สิ้นกระแสความได้

ทั้งนี้ ตนได้เตรียมเรื่องนี้เข้าบรรจุไว้ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะได้เห็นชัด ๆ ว่ามีความพยายามทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ มือดิวคือใคร และมีใครบ้างเกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ระดับชาติครั้งนี้