“เรืองไกร” ขอโทษทุกคน แต่ไม่เลิกยื่นนายกฯ ชี้ กม.คือ กม. เป็นธรรม-ไม่เลือกปฏิบัติ

“เรืองไกร” แจงปมส่งหนังสือถึงนายกฯให้ตรวจสอบขบวนพาเหรด-การแปรอักษรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ชี้ต้องการให้ กม.บังคับใช้อย่างเป็นธรรม-ไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมขอโทษทุกคน แต่ไม่ยกเลิกหนังสือ

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทำจดหมายเปิดผนึก กรณีที่ส่งหนังสือไปทางจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช.ให้ตรวจสอบขบวนพาเหรดและการแปรอักษรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายการชุมนุมทางการเมือง อันฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 หรือไม่ ว่า กรณีดังกล่าวทำให้หลายคนมีความกังวลว่าจะทำให้เข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือนำไปขยายผลให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง หรือแม้กระทั่งกังวลว่าองค์กรอื่นจะมาตำหนิกรณีดังกล่าวด้วย หลายคนที่กังวลจึงสื่อสารหลายทางเพื่อขอให้ตนชี้แจงเรื่องนี้ พร้อมทั้งขอโทษบุคคลใดๆ ที่ถูกร้องให้ตรวจสอบในกรณีนี้ ทั้งนี้ ก่อนอื่นขอชี้แจงว่า การร้องขอให้มีการตรวจสอบครั้งนี้ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ตนทำตามกฎหมายหรือคำสั่งที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้เลือกว่าทำไปแล้วจะเกิดการขัดกันแห่งผลประโยชน์ระหว่างเรื่องทางการเมืองกับการละเว้นไม่ร้องเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามกฎหมายหรือคำสั่งที่ใช้บังคับอยู่หรือไม่ แต่ทำไปเพื่อให้สาธารณชนได้เห็นว่ากฎหมายหรือคำสั่งที่มีสภาพเป็นกฎหมายนั้น ต้องใช้อย่างเป็นธรรมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ

นายเรืองไกรระบุว่า แต่เมื่อหลายคนที่มีความกังวลต่อเรื่องนี้ สื่อสารหลายทางเพื่อขอให้ตนขอโทษต่อเรื่องนี้ด้วยเกรงว่าจะมีผลกระทบทางการเมืองต่อไปหรือมีองค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศมาตำหนิด้วยนั้น ตนก็ขอโทษได้ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะให้ยกเลิกหนังสือดังกล่าวด้วยนั้นคงทำไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ทำด้วยตนเองโดยไตร่ตรองแล้วเหมือนที่เคยปฏิบัติมา และทำไปโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองบุคคลใด รวมทั้งไม่ได้ปรึกษาหรือรับงานจากบุคคลใด เพราะหลายครั้งที่ทำไปในหลายเรื่องก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้ คือ ได้รับการติดต่อจากหลายๆ ฝ่าย ขอให้ระงับการยื่นหนังสือด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่ตนไม่อาจจะทำตามความเห็นของผู้ใดจนต้องเลือกปฏิบัติในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เมื่อมีหลายคนกังวลว่าจะกระทบความรู้สึกของบุคคลที่ถูกร้องจนส่งผลกระทบทางการเมืองด้านใดด้านหนึ่ง ตนจึงขอใช้โอกาสนี้ “ขอโทษทุกคน” ทั้งในเรื่องนี้และเรื่องก่อนหน้านี้ แต่จะให้ตนทำเรื่องตรวจสอบร้องเรียนโดยเลือกว่าจะมีผลทางการเมืองหรือไม่ หรือจะไปเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ เพื่อไม่ยื่นร้องหรือตรวจสอบหรือไม่ จนเข้าลักษณะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์นั้น ขอยืนยันว่า ตนทำไม่ได้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์