กนก วงศ์ตระหง่าน เข้าพรรคชาติไทยพัฒนา ผลักดันคาร์บอนเครดิต หยอด “ลูกท็อป” หัวหน้าพรรค ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมแบบเอาเป็นเอาตาย และยังเป็นพรรคที่ไว้ใจได้ คำไหนคำนั้น
วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงต้อนรับนายกนก วงษ์ตระหง่าน อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่สมัครมาเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา แบบตลอดชีพ
ทั้งนี้ นายวราวุธแถลงว่า นายกนกเป็นคลังสมองที่สำคัญของพรรค มีบทบาทและความรู้ในหลายมิติและเป็นนักปฏิบัติ ตนมองว่าเป็นก้าวสำคัญของพรรคที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปี 2566 โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ด้านนายกนกแถลงเปิดใจว่า เหตุผลที่ตนสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้คุยกับนายนิกร จำนง หลายครั้งถึงพรรคการเมือง และการเมือง จากการศึกษาพบว่าพรรคชาติไทยพัฒนามีตัวตนที่สำคัญ คือ ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติให้เกิดความสำเร็จ ประเทศไทยไม่ขาดนโยบายที่ดีของพรรคการเมือง แต่ขาดการปฏิบัตินโยบาย ซึ่งพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว
นอกจากนั้นการคิดแก้ปัญหาของพรรคชาติไทยพัฒนาเริ่มจากความเป็นจริง หลายพรรคการเมืองเริ่มจากฝัน สิ่งที่คิดว่าควรจะเป็น แต่พรรคชาติไทยพัฒนาเริ่มต้นจากความเป็นจริง เพราะการเมืองความฝันเป็นเรื่องสำคัญที่สำคัญกว่า คือทำให้เกิดความจริงได้กับประชาชนและประเทศ และชื่นชมกับคำว่าสัจจะ กตัญญู ซึ่งสื่อถึงความรักชาติ รวมถึงไม่ขัดแย้งกับใคร
“การเมืองวันนี้ ในอนาคต และช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นหัวหน้าพรรคทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เอาเป็นเอาตาย คิดว่าถ้าอยู่ที่นี่ผมจะได้ทำเรื่องนี้ ผมไม่ได้โลกสวย แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาจริง ๆ นี่คือทิศทางใหม่ทางการเมือง แม้หลายคนจะมองว่าไกลตัว แต่ได้ทำงานให้ทรัพยากรเป็นประโยชน์กับประเทศในระยะกลางและระยะยาว ได้ทำงานในประเด็นการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่เป็นผลสำเร็จ รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต” นายกนกกล่าว
นายกนกยังกล่าวอีกว่า พรรคชาติไทยพัฒนามีสไตล์ที่เป็นบุคลิก คือ ไว้ใจได้ คำไหนคำนั้น ซึ่งสะท้อนถึงความจริงใจในการปฏิบัติว่าจะทำให้ได้รวมถึงสัจจะ วาจาและไม่ขัดแย้งกับใคร ทำให้ตัดสินใจขอร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งตนเห็นด้วยกับทิศทางทางการเมืองใหม่ที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้ดำเนินการ ไม่ใช่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่คือการวางรากฐานไปสู่อนาคต โดยเฉพาะประเด็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และนำประเด็นทรัพยากรธรรมชาติไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้ประชาชนเกษตรกร
ด้วยการสร้างมูลค่าใหม่ นำการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มีประสบการณ์ตรงกับป่า เพื่อให้รู้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนรอบ ๆ ป่า โดยในวันที่ 6-7 มกราคม 2566 จะร่วมกับข้าราชการของกระทรวงทรัพย์ ลงพื้นที่ที่ จ.สกลนคร ทำโครงการทันที