“วัชรพล” ดีใจคะแนน CPI ปี’60 ขึ้น แต่ยังไม่พอใจ ตั้งเป้าอีก 4 ปี ต้องได้เกินครึ่ง

เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ประกาศคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI ปี 2560 ซึ่งไทยได้ 37 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 96 จาก 180 ประเทศ โดยขยับจากกระดับ 101 ว่า แม้อันดับของไทยจะดีขึ้น แต่เรามีเป้าหมายว่าในปี 2564 จะต้องได้คะแนนถึง 50% แม้จะเป็นความท้าทาย แต่ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม ว่าจะช่วยได้อย่างไรบ้าง และหากไม่ถึง 50% ในปี 2564 ก็จะต้องมาดูว่าจะทำอะไรได้บ้าง ดังนั้น คะแนนในปี 2560 จึงยังถือว่าไม่ตรงตามเป้าหมาย โดยจากนี้ ป.ป.ช.จะมีอนุกรรมการ เพื่อวิเคราะห์ที่มาของแต่ละคะแนนที่ลดลง 3 ดัชนี ประกอบด้วย ด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการจัดการของรัฐบาล เพื่อดูว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะการยกระดับคะแนน CPI ถือเป็นยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ส่วนคะแนนที่ลดลง ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเป็นผลมาจากการตรวจสอบคนในรัฐบาล การจำกัดสิทธิสื่อมวลชน ฯลฯ ส่วนตัวเห็นว่า ทุกประเทศก็ไม่สามมารถตรวจสอบได้ครบถ้วน ส่วนความหลากหลายทางประชาธิปไตย เวลาที่มีการสำรวจ จะต้องดูหลายปัจจัย เช่น สำรวจประชากรได้หลากหลายหรือไม่ สอบถามอย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ให้ความเชื่อถือในผลสำรวจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคะแนนที่เพิ่มซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักนิติรัฐนั้นมีความน่าสนใจ ดังนั้น จึงจะมาดูว่าผู้ที่รับผิดชอบในการสำรวจแต่ละกลุ่มนั้น มีวิธีการคัดเลือกอย่างไร ดูกลุ่มใดเป็นตัวอย่าง แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่คะแนนเป็นบวกขึ้นมา

เมื่อถามว่า ในประเด็นเรื่องกระบวนการทางการเมือง ซึ่งไทยลดลงมากพอสมควรตรงนี้เป็นผลจากกระบวนการตรวจสอบคนในรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คิดว่าต้องดูในหลายปัจจัย เพียงแต่ว่าสื่อมวลชนให้ความสนใจในการเมืองมาก ซึ่งคิดว่าการรายงานข่าวของสื่อมวลชนมีผลต่อคะแนนส่วนนี้ด้วย เพราะเขาต้องนำความสนใจของสังคมมาวิเคราะห์ด้วย อย่างไรก็ตาม อีกสักระยะหนึ่งเมื่อทุกอย่างมีความคลี่คลายไปตามกฎหมาย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น

เมื่อถามอีกว่า คะแนนที่ดีขึ้นมีเรื่องของนิติรัฐ และการเรียกรับสินบน เป็นผลของการดำเนินการกวาดล้างของรัฐบาล และการทำงานของ ป.ป.ช.หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คิดว่ามีส่วน เมื่อเขาเห็นว่ารัฐบาลจริงจัง มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เน้นการปราบโกง รวมถึงกฎหมายลูก แม้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับป.ป.ช.จะให้กรอบเวลาในการดำเนินงาน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ไม่สบายใจ แต่ สนช.เห็นว่าต้องกำหนดเวลาในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อความมีประสิทธิภาพ คนจะได้เกรงกลัว ซึ่งเป็นความคาดหวังของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว เพื่อทำให้คนที่คิดจะโกงเห็นว่าจะต้องรับโทษ และไม่กล้ากระทำความผิด

เมื่อถามต่ออีกว่า เมื่อเห็นคะแนนแล้วจะเร่งดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียนคนในรัฐบาล เพื่อให้คะแนนดีขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ก็ต้องมาวิเคราะห์ดูเรื่องใดที่เป็นความสนใจของประชาชน จะต้องเรียกเจ้าหน้าที่มารับทราบว่าจะต้องเน้นเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์