รัฐบาลไม่กดดัน! หลังอียูถามโรดแมปเลือกตั้ง ยันทำทุกอย่างตามขั้นตอน

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยสอบถามถึงโรดแมปการเลือกตั้งหลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ทั้ง 7 คน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมสากลที่ทุกประเทศ ก็ต้องดูเรื่องของโลกโดยทั่วไป นอกเหนือจากการคำนึงถึงเรื่องราวในประเทศของตน คิดว่าเขาน่าจะมีกำหนดการในการพบกันกับ พล.อ.อ.ประจิน ในเรื่องอื่นๆ ส่วนเรื่องการเมืองก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ถามในช่วงท้าย ยืนยันว่ารัฐบาลดำเนินกระบวนการทุกอย่างไปตามขั้นตอน ระเบียบ หลักเกณฑ์ของกฎหมาย เพราะรัฐบาลไม่สามารถบังคับสนช. ได้ เขามีเหตุผลของเขา คือ เขาตรวจสอบรายละเอียดของผู้ได้รับการเลือกสรรมาว่าแต่ละบุคคลมีประวัติอะไรอย่างไร รัฐบาลไปทำอะไรไม่ได้ ต้องว่าไปตามนั้น เมื่อถามว่า มองว่าการสอบถามของทูตอียูเป็นการกดดันรัฐบาลไทยให้ทำตามโรดแมปหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ในโลกปัจจุบัน ไม่มีใครกดดันใครได้ เขาแค่ถามว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ส่วนความเห็นของรัฐบาลในประเด็นที่ทูตอียูแสดงความชื่นชมในการพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ไม่ได้มีความรู้สึกยินดี หรือเสียใจต่ออะไรมากมายนัก แค่เพียงรับทราบว่าต่างประเทศมองเราอยู่ทุกเรื่อง เรื่องไหนที่เราทำดีก็เป็นกำลังใจให้เราทำดีมากไปกว่าเดิม ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ทูตอียูต้องการพบ พล.อ.อ.ประจิน อีกครั้งนั้น จะเป็นการสอบถามเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่กล้าตอบในเรื่องต่างประเทศ เพราะไม่ค่อยได้ติดตาม ให้เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวกรณีที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2560/61 ระบุว่ารัฐบาลไทยมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนว่า ถือเป็นแนวความคิดของแต่ละกลุ่ม ประเทศไทยรู้ตัวเองดีว่ากำลังทำอะไร พยายามแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่องอย่างไร คิดว่าเอาตัวของเราเป็นที่ตั้งว่าสามารถแก้ไขปัญหาในบ้านเมืองให้ประชาชนมีความพึงพอใจได้มากแค่ไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนต่างประเทศ แต่เรามีหน้าที่อย่างเดียวคือต้องทำให้ดีที่สุดบนเหตุบนผลและข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
ที่มา มติชนออนไลน์