“วิษณุ” เผยศาลถามกรมบังคับคดีจะคัดค้านทุเลา “ยิ่งลักษณ์” หรือไม่ รับรบ.รอฟังศาลตัดสิน

วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอายัดทรัพย์น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวว่า คดีอาญาที่ฟ้องกันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นการฟ้องตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ส่วนจะถูกหรือผิดไม่เกี่ยวกับการอายัด ยกตัวอย่าง มาตรา 157 หากกระทำโดยประมาทเลินเล่อไม่ผิด แต่ทางแพ่งและทางปกครอง แม้ประมาทเลินเล่อก็ผิด เพราะเป็นการละเมิด เป็นการกระทำโดยจงใจ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายแพ่ง แต่กฎหมายอาญา มาตรา 157 ต้องเจตนาอย่างเดียวเท่านั้น องค์ประกอบเป็นคนละเรื่อง และคนละศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งทางปกครองในการยึดทรัพย์ที่กรมบังคับคดีดำเนินการอยู่ ซึ่งระบุให้หยุดไว้ก่อน (ฟรีซ) จะเดินหน้าต่อได้เมื่อใด นายวิษณุกล่าวว่า จะยังไม่มีการดำเนินการ เพราะรู้มาว่าขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นขอทุเลาการบังคับคดี ดังนั้น เราต้องฟังคำสั่งศาลอยู่เหมือนกัน ซึ่งเงินที่เอาออกมาจากการอายัดไว้ 5 บัญชี มาเก็บไว้ที่กรมบังคับคดี เป็นการให้เก็บรักษาไว้แทนธนาคาร ยังไม่ได้ยึดเป็นของหลวง ถ้าจะยึดจริงต้องส่งให้กับเจ้าหนี้ คือกระทรวงการคลังเอาเข้าหลวง แต่ตอนนี้ยังไม่เอาไป ซึ่งมีไม่กี่แสนบาท

“ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยได้ยื่นศาลปกครองกลางเพื่อขอทุเลา แต่ศาลไม่รับ เพราะขณะนั้นยังไม่มีการยึด จึงได้ยกคำร้อง แต่เมื่อมีการไปเอามาแล้ว ก็เป็นเหตุให้เขาบอกกับศาลว่าได้มีการอายัดทรัพย์แล้ว จึงได้มีการยื่นศาลขอทุเลาไปใหม่ ซึ่งขณะนี้ศาลปกครองได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังกรมบังคับคดีตอบ 2 ข้อ แต่ผมจำรายละเอียดไม่ได้ น่าจะเป็นในลักษณะ หากศาลทุเลาการบังคับคดี จะทำให้เกิดความเสียหายอะไรหรือไม่ และจะคัดค้านการทุเลาหรือไม่” นายวิษณุกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งทางปกครองนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์​ได้ขอทุเลาและยังมีช่องทางฟ้องต่อศาลปกครองว่าเป็นคำสั่งโดยมิชอบ กว่าจะอายัดทรัพย์ได้จริงๆ ต้องรอคำตัดสินศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะหากศาลไม่สั่งทุเลาก็เดินหน้าต่อได้ แต่ที่สุดแล้วขึ้นอยู่กับคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เพราะถึงตอนนั้น หากมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งสามารถคืนทรัพย์สินได้

 


ที่มา : มติชนออนไลน์