ครม.อนุมัติ ปรับเกณฑ์ LTR Visa เพิ่ม 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อนุชา บูรพชัยศรี

รัฐบาลปรับเกณฑ์ Long-Term Resident Visa (LTR Visa) เพิ่ม 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ดึงดูดต่างชาติที่มีศักยภาพสูงมาลงทุน

วันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เห็นชอบปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ภายใต้การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย Long-Term Resident Visa (LTR Visa)

โดยเพิ่มอุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมขนส่ง และโลจิสติกส์ 2.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 3.ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ และ 4.อุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยชาวต่างชาติขอรับการรับรองคุณสมบัติฯ ซึ่งต้องทำงาน โดยใช้ทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง ใน 9 ด้าน

เช่น การวิจัย และพัฒนาในอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือเทคโนโลยีเป้าหมาย (เช่น เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับอาชีวศึกษา หรืออุดมศึกษา การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในการประกอบธุรกิจ การบริการด้านระงับข้อพิพาท

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ไทย ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ เป็นประธาน มีอำนาจในการประกาศกำหนดเพิ่ม ลด หรือปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายได้ ตามความเหมาะสม เพื่อลดเวลาในการดำเนินการ และสามารถดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงสู่ประเทศไทยได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


การปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa ใหม่ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล และชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน ที่ได้รับ LTR Visa สามารถทำกิจกรรมซึ่งเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในไทยได้ในระยะยาวด้วย