จุดแข็งอนุทิน ขนาดพรรคภูมิใจไทยเชื่อมทุกขั้วได้ พูด-ทำทันที

อนุทิน
ศูนย์ภาพเครือมติชน

อนุทินเชื่อมทุกขั้ว ทำได้ทั้ง local และ inter ก็ไม่อายใคร

วันที่ 13 มีนาคม 2566 เวทีแรกของแคมเปญ “มติชน : เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งจัดที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย

ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในหัวข้อจุดแข็งของพรรคภูมิใจไทย ว่า เมื่อสักครู่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมืองพรรคพลังประชารัฐ เริ่มว่าถ้าเลือกพรรคพลังประชารัฐ จะได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ตนจึงขอเริ่มคำพูดของตนว่า

ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทย จะได้ตนเป็นนายกฯ พรรคภูมิใจไทยชูจุดยืน คือ จะไม่เป็นปัจจัยความขัดแย้ง จะไม่ต้องการเอาชนะพรรคการเมืองด้วยกันหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้วบอกว่าตัวเองชนะ เพราะไม่มีประโยชน์ คนที่ชนะพรรคภูมิใจไทยได้มีกลุ่มเดียวคือประชาชน

ส่วนจุดขาย คือ พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ เสนออะไรต้องปฏิบัติได้จริง ทำได้เลย ทำได้เร็ว กล้าตัดสินใจสนับสนุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ กล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการทุจริตต่อบ้านเมือง พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีระเบียบวินัย เราเคารพในกติกา ทั้งกติกาทางกฎหมาย กติกาในสภา กติกาการอยู่ร่วมกันและผลักดันเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ที่สำคัญคือ พรรคภูมิใจไทยจะทำให้รากฐานของประชาชนเข้มแข็ง

ผ่านระบบที่เป็นเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ คนไทยต้องมีสุขภาพดี ต้องมีโอกาสประกอบธุรกิจ และอาชีพโดยไม่มีการกีดกัน พรรคภูมิใจไทยมีคนที่เข้าใจบริบทนี้อยู่เต็มพรรค ในยุคที่พรรคภูมิใจไทยทำงานในกระทรวงสาธารณสุขมา 4 ปี

ยืนยันได้เลยว่าประชาชนคนไทยจะไม่มีวันล้มละลายจากปัญหาสุขภาพตัวเอง พรรคภูมิใจไทยจะให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาถิ่นกำเนิดของตัวเอง ด้วยการมีภาษีบ้านเกิดเมืองนอนไปจัดการเอง

นายอนุทินกล่าวว่า สำหรับจุดแข็ง คือ พรรคภูมิใจไทยทำได้แน่นอน เพราะเราเป็นพรรคที่มีขนาดพอสมควร สามารถที่จะประสานเชื่อมทุกพรรคได้ ทำให้เกิดความสามัคคี และความสงบของคนในชาติ พรรคภูมิใจไทยทำได้ทั้งระดับท้องถิ่น คือ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่อย่างดี และระดับนานาชาติ คือไปไหนไม่อายใครอย่างแน่นอน สามารถทำให้นานาอารยประเทศให้ความเชื่อมั่น เชื่อถือต่อประเทศไทย

“พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคขนาดพอสมควร ประสานเชื่อมทุกพรรค ทำให้เกิดความสามัคคี ความสงบของคนในชาติ ทำได้ทั้ง local และ inter อยู่ local เข้าใจพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี ไป inter ไม่อายใครแน่นอน สามารถทำให้นานาอารยประเทศเชื่อมั่น เชื่อถือประเทศไทย” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า รัฐมนตรีทุกคนของพรรคภูมิใจไทยสามารถทำงานเข้ากับข้าราชการได้ ด้วยความเข้าใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งยังทำงานร่วมกันระหว่างการเมืองต่อการเมืองได้ในกรณีที่เราไม่มีความเห็นที่ขัดแย้งกันในเรื่องของอุดมการณ์

พรรคภูมิใจไทย จึงอยากจะย้ำจุดยืน ชูจุดขาย และประกาศจุดแข็ง ให้พี่น้องประชาชนทราบ เราจะทำทันทีตามที่ได้พูดหลังจากที่เราได้เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล และถ้าเป็นไปได้ผมจะได้เป็นนายกฯ