
วงเสวนามติชน เลือกตั้ง’66 นักวิชาการ นักวิเคราะห์การเมือง ชี้ เพื่อไทยได้ที่ 1 แต่ไม่แลนด์สไลด์ 310 เสียง
วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่อาคารมติชน “เครือมติชน” จัดเวทีเสวนาวิชาการ วิเคราะห์เลือกตั้ง 2566 จากฐานคะแนนและการแบ่งเขตเลือกตั้งช่วงที่ 2 ในการเสวนา หัวข้อ “ภูมิทัศน์การเมืองจากเลือกตั้ง 2562 ถึงเลือกตั้ง 2566” โดย รศ.ดร.ธนพร พร้อมด้วย ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตกรรมการบริหาร-โฆษกพรรคไทยรักไทย อดีตรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารเป็นกรณีพิเศษ รวม 699 ราย
- คดีทักษิณ-ขออภัยโทษ
- “พิธา” คาดตั้งรัฐบาลเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ สั่งเตรียมพร้อมแถลงนโยบาย
ดร.สติธรกล่าวว่า วันนี้เราเอาข้อมูลปี 2562 มาแบ่งเขตใหม่ตามปี 2566 โดยพบว่าเลือกตั้งปี 2562 ใครชนะผลในปี 2566 ที่เราคาดการณ์ก็ต้องเป็นพรรคเดิม สิ่งที่น่าติดตามต่อไปคือการย้ายพรรค ยกตัวอย่างกรุงเทพฯเขต 1 เป็นเขตที่ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐเคยชนะ มาเป็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย
ดังนั้น ผลการเลือกตั้งจะออกตามพรรคหรือออกตามผู้สมัคร นี่คือสิ่งที่ต้องติดตามต่อ
อีกประเด็นคือพรรคเพื่อไทยฝันถึงแลนด์สไลด์ แปลว่าเขาฝันถึงวันวานอันหวานชื่นเมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นวันที่พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเยอะมาก แต่หายไปในปี 2562 น่าสนใจที่ว่าคะแนนหายไปตรงไหนบ้าง และวันนี้ปี 2566 มีโอกาสไปกู้คืนได้หรือไม่ ถ้าหายไปให้พรรคอนาคตใหม่ฐานเสียงเดียวกันยังพอเอาคืนมาได้ แต่ถ้าหายไปให้พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ทำอย่างไร
คิดว่านี่ก็เป็นอีกชุดข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจ

นายสุรนันทน์กล่าวว่า การดูคะแนนอาจจะต้องกลับไปปี 2544 ปี 2548 ด้วยซ้ำ ส่วนปี 2554 มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องเขตเยอะ ประชากรมันเปลี่ยน มู้ด (อารมณ์) ประชาชนเปลี่ยน ถ้าใช้ผลคะแนน ปี 2562 เป็นหลัก ยังมีพรรคลุงกำนัน (พรรครวมพลังประชาชาติไทย) พรรคพลังประชารัฐไม่แตกเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงอยู่ในสภาพที่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่แย่งฐานคะแนนไป
ในฐานคะแนนและมู้ดของประชาชน คะแนนระดับตำบลหมู่บ้านจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ในหมู่ประชาชน
ปี 2562 กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ แรงมาก ในฝั่งอนุรักษนิยมเลือก พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐก็มา 10-12 ที่นั่ง แต่ใน กทม. ปี 2566 จะรู้สึกได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่แม่เหล็กเหมือนเดิม พล.อ.ประวิตรก็ไม่ใช่แม่เหล็ก พรรครวมไทยสร้างชาติ บวกกับพรรคพลังประชารัฐ อาจจะกินกันเองใน กทม.ด้วยซ้ำ และทำให้ทั้งสองพรรคไม่เข้าวิน
กทม.จะออกฝ่ายประชาธิปไตย เสรีนิยม คาดว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกลมากกว่าที่จะเข้าวิน ชุมชนที่ผมลงไปก็ต้องวิเคราะห์เยอะ บ้านมีรั้วก็บอกว่า 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ พอแล้ว สถิติ 2566 คงต้องคุยกันเรื่องโพล เอาเรื่องโพลต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกัน
นายสุรนันทน์กล่าวว่า การวิเคราะห์สนาม กทม.จะต้องเอาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เข้าไป เพราะเห็นชัดว่าการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ระดับชุมชน เห็นได้ชัดว่า ส.ก.ของอัศวิน ฝ่ายรัฐบาลหายไปหมด เหลือ 2 ประชาธิปัตย์ มา 4-6 ที่เหลือเพื่อไทยกับก้าวไกล
แม้การต่อสู้ระดับชุมชนที่ต่อสู้กันหนัก มีทั้งกระสุนจริงและสีเทา แต่มันชัดเจนอยู่ว่าชุมชนคะแนนแตก แต่กระแสใหญ่มากลายเป็นคะแนนของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หมด เพราะคนต้องการเปลี่ยนแปลง

“พรรคก้าวไกล ประกาศชัด กทม.กับหัวเมืองเขต 1 ทั้งหมด พรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เขาเข้าถึงชนบทได้ ด้วยนโยบายข้าวเดิม แต่เข้าถึงหัวเมืองด้วยเพราะเพื่อไทยเชื่อว่าคนต้องการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าทุกพรรคที่ทำโพลแม่นที่สุดคือโพลที่ถือที่ดูไบ ผมไม่เชื่อว่าแลนด์สไลด์ ไม่ได้เกิน 250 หรือ 310 แต่มู้ดนี้เพื่อไทยยังเป็นที่ 1”
นายสุรนันทน์กล่าวอีกว่า ตอนทำพรรคสร้างอนาคตไทย ลงไปโฟกัสกรุ๊ปพบว่าความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากปี 2562 เยอะ และเราทำโฟกัสกรุ๊ป พล.อ.ประยุทธ์กับ พปชร.ขายไม่ได้แล้วใน กทม.
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ปี 2566 คนเบื่อรัฐบาลและอยากเปลี่ยนหรือเปล่ามากกว่า ถ้าคนอยากเปลี่ยนรัฐบาล มันจะไม่ใช่เสรีนิยมหรือเผด็จการ แต่ดูว่าพรรคไหนเสนอนโยบายที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล หรือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ก็มีสิทธิเลือกได้
นายสุรนันทน์ยังกล่าวถึงนโยบายที่พรรคการเมืองแข่งขันกันขณะนี้ว่า พอเป็นประชานิยมหมด ประชานิยมจนคนงง สุดท้ายคนในชุมชนก็จะคิดว่าก็เป็นนักการเมืองเหมือนกันทั้งหมด เมื่อเสนอนโยบายเหมือนกันเขาแยกไม่ออก เขาก็รับเงินจากพรรคการเมืองที่ให้เงินดีกว่า ในต่างจังหวัดก็มีผล คนไทยคิดเป็นแต่อยากเลือกคนที่ดี แต่ก็มองว่าคนนี้ฝากลูกชั้นเข้าโรงเรียนก็เลือกคนนี้ ไม่ใช่เรื่องนโยบาย เพราะประเทศไทยระบบอุปถัมภ์ฝังรากลึก
“พรรคการเมืองต้องพูดให้ชัดว่าจะเปลี่ยนโครงสร้างประเทศอย่างไรในวันข้างหน้า ข้างหน้าต่างหากที่คนอยากรู้จะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลง ทำอย่างไรให้เขามีเงิน จะดีกับการเมืองไทยในอนาคต ไม่ใช่มาแข่งตัวเลขกัน” นายสุรนันทน์กล่าว

ด้าน ดร.สติธรกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ชูแคมเปญเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ 310 เสียง มีความเป็นไปได้ไหม 310 ว่า ยังมีความหวังลึกมาก ๆ โพลที่แม่นที่สุดอยู่ที่ดูไบ และรู้ว่าไม่ใช่ 310 แต่เลขนี้มีความหมายรุกฆาต 1 ประชิดไปที่พรรคก้าวไกล ต้องเอาคะแนนที่ก้าวไกลเคยแชร์เอากลับมาให้มากที่สุด 6.3 ล้านเสียง หารกลม ๆ ประมาณ 1.8 หมื่นต่อเขต แปลว่าคะแนนที่เพื่อไทยเคยได้ตอนปี’54 เอาคืนมาได้ยังไง เท่าไหร่
พรรคเพื่อไทยเคยชนะเลือกตั้ง 204 เขต ตอนปี 2554 ถ้าเทียบบัญญัติไตรยางค์ ปัจจุบันคือ 210 เขต เท่ากับ 10,500,000 พอแล้ว วันนี้ก้าวไกลถือเอามาครึ่งเดียว แล้วลุ้นบัญชีรายชื่อ โพลที่สำรวจออกมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีคะแนนนิยม 40% ก็เอามา 40 ที่นั่ง
การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ตัวเลข 310 คือหนึ่งในกระบวนการที่จูงใจให้คนอยากเลือกเชิงยุทธศาสตร์ คนฝ่ายเสรีนิยม แปลว่าเขตก็ต้องยกให้เพื่อไทย 310 เอาปาร์ตี้ลิสต์ ยังไงเขตก็ต้องปักให้พรรคเพื่อไทย ก้าวไกลก็ต้องปลอบใจด้วยปาร์ตี้ลิสต์ ก็จะเกิดยุทธศาสตร์แบบนี้
พอวาง 310 ปุ๊บ คนที่วาง อะไรที่ไม่ทะลุหลังคา เพื่อไทยเอามาหมดเลย เกมนี้บีบให้ก้าวไกลทะลุหลังคา นี่คือแผนระดมเสียงในการเรียกคืนจากคะแนนที่แชร์ไป 310 เสียง กระแทกยุทธศาสตร์ยังไงก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ภูมิใจไทย การที่จะไปหาเสียงยังไง ขั้วไหนมา ก็จะดร็อปลงเชิงกระแส
“ฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตที่มีแค่ตัวเลขกับช่องสี่เหลี่ยม มันควรจะมีชื่อ วันนี้เราพูดเรื่องประชาธิปไตย 3 วินาที แต่คิดว่าผมใช้เวลาเกิน เพราะต้องมานั่งนึกว่าคนที่จะเลือกคือเบอร์อะไร และสารภาพว่าตอนเลือกตั้ง อบจ.กาผิดเบอร์ อยากขอร้อง กกต.ว่าบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตให้มีการใส่ข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตรงนี้จะช่วยประชาชนได้มาก วันนี้เราวิเคราะห์ตัวเลขกันเรื่องเลือกตั้ง มีตัวเลขหนึ่งที่ไม่อยากให้เห็นคือตัวเลขบัตรเสีย บางครั้งของการเลือกตั้งมีถึง 5% ถ้าไม่นับคนที่ตั้งใจผมเชื่อว่าเขาขาดข้อมูลที่เพียงพอ” ดร.สติธรกล่าว
รศ.ดร.ธนพรกล่าวเสริมว่า แลนด์หรือไม่แลนด์สไลด์ วาทกรรมเพื่อไทยชนะแน่ กำลังกลายเป็นวาทกรรมหลัก หน้าที่ผมต้องสร้างวิธีคิดของพรรคการเมืองคิดกันแบบนี้ไม่ได้คาดหวังบุคคลเป็นเทวดา ถ้าอยู่ในสนามที่เป็นนักสู้แบบเขาก็ต้องคิดแบบเขา เอามาให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับรู้ เราจะใช้อำนาจของเรา ผมหวังว่าทุกคนจะมีการตัดสินใจเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น หวังว่าข้อมูลชุดแบบนี้เอาไปประกอบการตัดสินใจมากขึ้นไปอีก